เขาจับหน้าตนเอง ถามด้วยความประหลาดใจว่า “พี่จงเหลียง คุณ...คุณตีผมทำไม? คุณต้องตีไอ้ยาจกนั้นสิ!”
หม่าจงเหลียงรู้สึกโกรธจนตัวสั่น และกล่าวตะกุกตะกักว่า “คุณ.......แม่งฉิบหายคุณกำลังรนหาที่ตาย! คุณกล้ามาว่าอาจารย์เย่เป็นยาจกได้อย่างไร! แม่งฉิบหายผมรู้สึกว่าคุณเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็ตะโกนบอกลูกน้องทันทีว่า “แม่งฉิบหาย จับมันไว้ และทุบตีมันให้หนัก!”
แม้ว่าลูกน้องส่วนใหญ่ของหม่าจงเหลียงจะไม่เคยเห็นเย่เฉิน แต่พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อของอาจารย์เย่
เพราะว่าคนนี้คือผู้มีพระคุณที่ท่านหงห้ากล่าวถึงตลอด และท่านหงห้าเป็นถึงเจ้าพ่อโลกใต้ดินทั้งหมดของเมืองจินหลิง กล่าวได้ว่าผู้มีพระคุณของท่านหงห้าก็คือผู้มีพระคุณของสมาชิกทั้งหมดของโลกใต้ดินในเมืองจินหลิง
หลิวจงฮุยล่วงเกินใครก็ไม่ไปล่วงเกิน แต่ดันมาล่วงเกินอาจารย์เย่ นี่มันเป็นการรนหาที่ตายใช่ไหม?
ดังนั้น ลูกน้องเหล่านี้รีบวิ่งไปข้างหน้าและกดหลิวจงฮุยลงไปบนพื้น จากนั้นก็ทุบตีเตะต่อยอย่างรุนแรง
หลิวจงฮุยถูกทุบตีเตะต่อยจนร้องคร่ำครวญ และร้องไห้อ้อนวอนว่า“ พี่จงเหลียง ผมไม่รู้ว่าคุณเย่เป็นเพื่อนของคุณ ถ้าผมรู้ ถึงตีให้ตายผมก็ไม่กล้ามีเรื่องกับคุณเย่! ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
“ยกโทษให้คุณ??” หม่าจงเหลียงที่กังวลกล่าวออกมาโดยไม่ได้คิดว่า “แม่งฉิบหาย ถ้าผมยกโทษให้คุณ แล้วใครจะยกโทษให้ผม? ถ้าอาจารย์เย่โทษขึ้นมา ผมก็ไม่สามารถรับผลที่จะตามมาได้ ถึงแม้ว่าอาจารย์เย่จะไม่โทษผม แต่ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูท่านหงห้า ท่านหงห้าก็จะทำลายผม! ไอ้สารเลวคุณทำให้ผมเดือดร้อนรู้ไหม!”
หลิวจงฮุยร้องไห้และกล่าวว่า “พี่จงเหลียง ยกโทษให้ผมเถอะ ผมสำนึกผิดแล้ว ......”
หลังจากกล่าวจบ เขามองไปที่เย่เฉินอีกครั้ง ร้องไห้และอ้อนวอนว่า “อาจารย์เย่ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย อาจารย์เย่!”
เย่เฉินยิ้มบาง ๆ และกล่าวกับหม่าจงเหลียงว่า “เอาล่ะ ให้คนของคุณหยุดก่อน”
ทันทีที่หม่าจงเหลียงได้ยินประโยคนี้ เขารีบตะโกนว่า “ทุกคนหยุด อาจารย์เย่กำลังจะมีคำสั่ง!”
หลังจากกล่าวจบ เขามองไปที่หลิวจงฮุยและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานหลิว จากบริษัทมารยาทซ่างเหม่ย ใช่ไหม?”
หลิวจงฮุยกล่าวเบา ๆ ในขณะที่มุมปากยังมีเลือดไหล “ผมเอง.....ผมเอง...อาจารย์เย่ ผมเองที่ผิด ผมมีตาแต่หามีแววไม่ ที่ไปล่วงเกินคุณ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ......”
เย่เฉินโบกมือ และกล่าวอย่างจริงจัง “โอ้! ในโลกของผู้ใหญ่ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น”
หลังจากกล่าวจบ เขาชี้ไปที่เฉินเสี่ยวเฟยที่หน้าซีดเผือด และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณดูสิ ก่อนที่คุณจะมา ผมได้บอกผู้จัดการเฉินเมื่อประมาณ 30 นาทีก่อน ผมได้ยืมเงินให้บริษัทคุณห้าแสนหยวน ผมได้นัดกับผู้จัดการเฉินแล้ว อัตราดอกเบี้ยห้าแสนหยวนต่อนาที ตอนนี้ผ่านไป 30 นาทีแล้ว ดอกเบี้ยกลายเป็นสิบห้าล้านหยวน รวมทุนแล้วสิบห้าล้านห้าแสนหยวน คุณคิดว่าจะจ่ายคืนให้ผมเมื่อไหร่ดี?”
หลิวจงฮุยตกใจจนตัวสั่น และกล่าวว่า “อาจารย์เย่........คุณ...ดอกเบี้ยของคุณสูงเกินไป.....ห้าแสนหยวนต่อนาที นี่เป็นการเอาชีวิตของผมเลยน่ะครับ.....”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณคิดดูสิ บริษัทของคุณร่ำรวยมหาศาลด้วยข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม ส่วนคนอย่างผม หารายได้จากเงินกู้ภายนอก คุณมีความสามารถในการสร้างรายได้จากข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม และผมก็มีวิธีสร้างรายได้ของตนเอง พวกเราก็เป็นคนที่ออกมาทำมาหากินเหมือนกัน ต้องเคารพซึ่งกันและกัน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...