เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ขอแค่คุณตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบ ใส่ใจและมีมโนธรรม ถึงแม้ว่าว่าคุณจะทำงานได้ไม่ดีก็ไม่เป็นไร”
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า “อีกสักครู่ผมจะให้พวกเขาทั้งสองคนโอนเงินฝากทั้งหมดไปยังบัญชีของบริษัทมารยาทซ่างเหม่ย ส่วนเงินก้อนนี้จะเอายังไง หลังจากที่คุณเข้าไปดูแลบริษัทแล้ว คุณต้องหาสัญญาข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมของบริษัทออกมาทั้งหมด และปลดล็อกสัญญาของผู้หญิงทุกคนออกอย่างไม่มีเงื่อนไข หลังจากนั้นก็แจกจ่ายเงินชดเชยให้กับพวกเธอเป็นค่าตอบแทนตามจำนวนปีที่พวกเขาถูกบังคับให้ลงนามในสัญญา กฎระเบียบของการแจกจ่ายเงินชดเชยจะต้องยุติธรรมและสมเหตุสมผล!”
เมื่อเซียวเวยเวยได้ยินประโยคนี้ เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “ได้ค่ะ พี่เขย ฉันจะแจกจ่ายเงินชดเชยก้อนนี้ให้พวกเธออย่างยุติธรรมและสมเหตุสมผล!”
“ดีมาก” เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “หลังจากที่คุณจ่ายเงินชดเชยให้พวกเธอแล้ว คุณแจ้งให้พวกเธอทราบอย่างชัดเจนว่า ต่อจากไปนี้คุณจะเป็นคนที่รับผิดชอบดูแลบริษัทนี้ และให้พวกเธอทราบเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินงาน การแบ่งปัน การจ่ายเงินของบริษัท และกระบวนการทั้งหมดจะเปิดเผยและโปร่งใส หากพวกเธอยินดีที่จะเป็นพริตตี้ของบริษัท งั้นก็ร่วมมือทำงานกับบริษัทต่อไป และลงนามในสัญญาจ้างเท่าเทียม! แค่คุณดูแลประเด็นเหล่านี้ให้ดี ผมเชื่อว่าพวกเธอจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่คุณเข้าไปดูแลบริษัทแล้ว คุณจะมีทีมงานที่มั่นคง และหลังจากนั้นก็รับงานต่าง ๆ ผมเชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน”
เซียวเวยเวยฟังถึงตรงนี้ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่เขย คุณพูดถูก ขอแค่ทุกคนลงนามในสัญญาจ้างเท่าเทียม ทุกคนต้องเต็มใจที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทอย่างแน่นอน!”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ เธอกล่าวต่อไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ “เพราะการเป็นพริตตี้เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก ทุกเช้าต้องใช้เวลาในการแต่งหน้าแต่งตัวนานมาก แล้วงานก็มักจะต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้เวลาที่เหลือจากการทำงาน ไปคุยสัญญาจ้างงานได้ หรือสร้างความสัมพันธ์กับบริษัทได้.....”
“สำหรับพวกเราที่เป็นพริตตี้แล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการทำงานก็คือ การที่มีบริษัทที่เชื่อถือได้ช่วยพวกเรารับงานกิจกรรมทุกที่ จากนั้นจัดเตรียม กำหนดการ และการวางแผนโดยรวมที่เหมาะสมแก่พวกเรา”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนก็เต็มใจที่จะให้บริษัทดึงผลตอบแทนจากค่าแรงของตนเอง พนักงานและบริษัทจะร่วมมือกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ เพื่อที่จะทำให้บริษัทดีขึ้นกว่าเดิม”
ในช่วงเวลานี้ เซียวเวยเวยมีชีวิตที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก
ที่ลำบาก นั้นเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอไม่เคยทำงานมาก่อน เป็นคนหนูที่ไม่เคยต้องออกไปทำงานหาเงิน แต่ตอนนี้กลายเป็นคนที่ต้องทำงานข้างนอกทุกวันเพื่อหาเลี้ยงชีพ
“แต่น่าเสียดาย ที่กลุ่มของพริตตี้นั้นอ่อนแอเกินไป จึงถูกรังแกได้ง่าย! ดังนั้นเจ้าของส่วนใหญ่ของอาชีพนี้ โลภมากเหมือนกับหลิวจงฮุย และทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเหล่านั้นที่ไม่มีฐานะภูมิหลัง”
“ดังนั้น ตราบใดที่พวกเรายังทำมาหากินอยู่ในอาชีพนี้ จึงทำได้เพียงแค่เปลี่ยนจากบริษัทที่หลอกลวงแห่งนี้ แล้วก็ไปบริษัทที่หลอกลวงอีกแห่งหนึ่งเท่านั้น”
“แต่ตอนนี้พี่เขยให้โอกาสฉัน ให้ฉันมาบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแห่งนี้ ถ้าฉันตั้งใจทำงาน ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะสามารถทำกำไรได้เท่าไหร่ อย่างน้อยฉันก็สามารถรับประกันได้ว่าสาว ๆ ที่ทำงานกับฉัน จะไม่ถูกบริษัทรังแก และจะไม่ถูกบริษัทเอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป.......”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เซียวเวยเวยก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เธอมองไปที่เย่เฉินด้วยดวงตาที่เลื่อมใสศรัทธาและแน่วแน่ กล่าวอย่างมั่นใจว่า “พี่เขย ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ และจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...