ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 2176

เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ขอแค่คุณตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบ ใส่ใจและมีมโนธรรม ถึงแม้ว่าว่าคุณจะทำงานได้ไม่ดีก็ไม่เป็นไร”

จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า “อีกสักครู่ผมจะให้พวกเขาทั้งสองคนโอนเงินฝากทั้งหมดไปยังบัญชีของบริษัทมารยาทซ่างเหม่ย ส่วนเงินก้อนนี้จะเอายังไง หลังจากที่คุณเข้าไปดูแลบริษัทแล้ว คุณต้องหาสัญญาข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมของบริษัทออกมาทั้งหมด และปลดล็อกสัญญาของผู้หญิงทุกคนออกอย่างไม่มีเงื่อนไข หลังจากนั้นก็แจกจ่ายเงินชดเชยให้กับพวกเธอเป็นค่าตอบแทนตามจำนวนปีที่พวกเขาถูกบังคับให้ลงนามในสัญญา กฎระเบียบของการแจกจ่ายเงินชดเชยจะต้องยุติธรรมและสมเหตุสมผล!”

เมื่อเซียวเวยเวยได้ยินประโยคนี้ เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า “ได้ค่ะ พี่เขย ฉันจะแจกจ่ายเงินชดเชยก้อนนี้ให้พวกเธออย่างยุติธรรมและสมเหตุสมผล!”

“ดีมาก” เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “หลังจากที่คุณจ่ายเงินชดเชยให้พวกเธอแล้ว คุณแจ้งให้พวกเธอทราบอย่างชัดเจนว่า ต่อจากไปนี้คุณจะเป็นคนที่รับผิดชอบดูแลบริษัทนี้ และให้พวกเธอทราบเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินงาน การแบ่งปัน การจ่ายเงินของบริษัท และกระบวนการทั้งหมดจะเปิดเผยและโปร่งใส หากพวกเธอยินดีที่จะเป็นพริตตี้ของบริษัท งั้นก็ร่วมมือทำงานกับบริษัทต่อไป และลงนามในสัญญาจ้างเท่าเทียม! แค่คุณดูแลประเด็นเหล่านี้ให้ดี ผมเชื่อว่าพวกเธอจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากที่คุณเข้าไปดูแลบริษัทแล้ว คุณจะมีทีมงานที่มั่นคง และหลังจากนั้นก็รับงานต่าง ๆ ผมเชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน”

เซียวเวยเวยฟังถึงตรงนี้ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่เขย คุณพูดถูก ขอแค่ทุกคนลงนามในสัญญาจ้างเท่าเทียม ทุกคนต้องเต็มใจที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทอย่างแน่นอน!”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ เธอกล่าวต่อไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ “เพราะการเป็นพริตตี้เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก ทุกเช้าต้องใช้เวลาในการแต่งหน้าแต่งตัวนานมาก แล้วงานก็มักจะต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้เวลาที่เหลือจากการทำงาน ไปคุยสัญญาจ้างงานได้ หรือสร้างความสัมพันธ์กับบริษัทได้.....”

“สำหรับพวกเราที่เป็นพริตตี้แล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการทำงานก็คือ การที่มีบริษัทที่เชื่อถือได้ช่วยพวกเรารับงานกิจกรรมทุกที่ จากนั้นจัดเตรียม กำหนดการ และการวางแผนโดยรวมที่เหมาะสมแก่พวกเรา”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนก็เต็มใจที่จะให้บริษัทดึงผลตอบแทนจากค่าแรงของตนเอง พนักงานและบริษัทจะร่วมมือกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ เพื่อที่จะทำให้บริษัทดีขึ้นกว่าเดิม”

ในช่วงเวลานี้ เซียวเวยเวยมีชีวิตที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก

ที่ลำบาก นั้นเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอไม่เคยทำงานมาก่อน เป็นคนหนูที่ไม่เคยต้องออกไปทำงานหาเงิน แต่ตอนนี้กลายเป็นคนที่ต้องทำงานข้างนอกทุกวันเพื่อหาเลี้ยงชีพ

เป็นเพราะการมีส่วนร่วมจริงในการทำงาน ทำให้เธอสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานของอาชีพหนึ่ง และค้นพบปัญหาในสายอาชีพนั้น

หลังจากที่เธอเป็นพริตตี้มาระยะหนึ่ง เธอก็ค้นพบข้อดีและข้อเสียของพริตตี้ด้วย

ตอนนี้เธอคิดอยู่ในใจว่า “ผู้หญิงที่ทำงานเป็นพริตตี้เหมือนตนเอง ทุกคนล้วนมาจากครอบครัวที่ไม่มีฐานะภูมิหลัง ไม่มีที่พึ่งพาอาศัย พึ่งพาการทำงานหนักทุกวันเพื่อค่าตอบแทน ในเมื่อทุกคนเลือกทำงานนี้ ก็เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความทุกข์และความเหน็ดเหนื่อย จึงทำให้พวกเขาไม่กลัวความทุกข์ยากหรือความเหน็ดเหนื่อย..... ”

“แต่สิ่งที่พวกเรากลัวคือ การทำงานกับบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ....”

“เช่นเดียวกับบริษัทมารยาทซ่างเหม่ยของหลิวจงฮุย งานที่ป้อนให้ทุกคนทำนั้นเป็นงานที่หนักมาก แต่ค่าตอบแทนน้อยมาก…”

“ให้ค่าตอบแทนน้อยก็ช่างมัน แต่หลิวจงฮุยและเฉินเสี่ยวเฟยยังคงไม่พอใจอีก พวกเขาต้องการเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเหล่านั้นให้มากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมและสัญญาลวงต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงพวกเรา และเพื่อต้องการหาเงิน พวกเขาทำแม้กระทั่งบีบบังคับให้พวกเราไปทำงานในสถานที่อโคจรซึ่งทำให้ชีวิตมีแต่ความหายนะ...”

“ถ้าหากว่าพวกเราสามารถหาบริษัทที่ไว้ใจได้ บริษัทและพนักงานก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้จะเหนื่อยหน่อยแต่ก็ไม่มีใครบ่น...”

“แต่น่าเสียดาย ที่กลุ่มของพริตตี้นั้นอ่อนแอเกินไป จึงถูกรังแกได้ง่าย! ดังนั้นเจ้าของส่วนใหญ่ของอาชีพนี้ โลภมากเหมือนกับหลิวจงฮุย และทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเหล่านั้นที่ไม่มีฐานะภูมิหลัง”

“ดังนั้น ตราบใดที่พวกเรายังทำมาหากินอยู่ในอาชีพนี้ จึงทำได้เพียงแค่เปลี่ยนจากบริษัทที่หลอกลวงแห่งนี้ แล้วก็ไปบริษัทที่หลอกลวงอีกแห่งหนึ่งเท่านั้น”

“แต่ตอนนี้พี่เขยให้โอกาสฉัน ให้ฉันมาบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแห่งนี้ ถ้าฉันตั้งใจทำงาน ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะสามารถทำกำไรได้เท่าไหร่ อย่างน้อยฉันก็สามารถรับประกันได้ว่าสาว ๆ ที่ทำงานกับฉัน จะไม่ถูกบริษัทรังแก และจะไม่ถูกบริษัทเอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป.......”

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เซียวเวยเวยก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

เธอมองไปที่เย่เฉินด้วยดวงตาที่เลื่อมใสศรัทธาและแน่วแน่ กล่าวอย่างมั่นใจว่า “พี่เขย ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ และจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน