หากทำงานเป็นบ๋อยก็ต้องตั้งใจทำให้ดี ยังมีโอกาสได้รับอิสรภาพคืนเร็วขึ้น
มิเช่นนั้น อาจจะต้องทำงานเป็นบ๋อยใน KTV ไปตลอดชีวิต
ไม่ใช่ว่าตอนที่อายุหกเจ็ดสิบปีผมหงอกแล้ว ยังต้องไปแจกกระดาษชำระให้กับลูกค้าผู้ชายที่ประตูห้องน้ำ? แม่งฉิบหาย ชีวิตอย่างนั้นมันน่าสังเวชเกินไป
ขณะนี้ หม่าจงเหลียงที่อยู่ด้านข้าง เห็นสีหน้าโศกเศร้าของหลิวจงฮุย ทำให้เขารู้สึกเห็นใจไม่มากก็น้อย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็คิดอยู่ในใจว่า “ถึงแม้ว่าวันนี้หลิวจงฮุยเกือบจะทำให้ตนเองประสบหายนะ แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นเพื่อนของตนเอง ไม่พูดถึงเรื่องที่เขาเคารพตนเองเสมอมา และยังจัดผู้หญิงที่ตนเองชอบให้คนหนึ่ง และถือว่าตนเองติดหนี้บุญคุณเขา......”
“และเมื่อสักครู่ เพื่อปกป้องตนเอง ได้ทำการทุบตีเขาทันที และขู่ว่าจะทำให้เขาพิการ ตอนนี้มาคิดดูแล้ว มันรู้สึกแย่จริง ๆ และรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายต้องลำบาก ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปว่าหม่าจงเหลียงนั้นเป็นคนเลวคบไม่ได้ เมื่อเจอปัญหาก็สามารถจะทรยศเพื่อนได้....”
“นอกจากนี้ อาจารย์เย่คนนี้เป็นคนโหดเหี้ยมจริง ๆ ให้หลิวจงฮุยไปทำงานเป็นบ๋อยอยู่ที่ KTV นี่เท่ากับให้เจ้าของบริษัทที่มีเงินเดือนหนึ่งล้านต่อปีไปทำความสะอาดห้องน้ำ ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มอิทธิพลมืดล้วนเป็นคนที่รักหน้าตาตนเอง ทำเช่นนี้แล้วใครจะสามารถทนได้....”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หม่าจงเหลียงถือโอกาสที่เย่เฉินพูดคุยกับเซียวเวยเวย ดังนั้นเขาจึงเอนตัวไปที่หลิวจงฮุย และกระซิบว่า “หลิวจงฮุยอย่าโศกเศร้ามาก วันนี้มีบทสรุปเช่นนี้ ถือว่าโชคดีมากแล้ว....”
เมื่อหลิวจงฮุยได้ยินประโยคนี้ ทำให้เขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จนน้ำตาไหลออกมานองหน้า สะอึกสะอื้นและถามว่า “พี่จงเหลียง.....ผมเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังถือว่าโชคดีอีกหรือ?”
หม่าจงเหลียงพยักหน้าอย่างจริงจังและกล่าวว่า “ไม่กล่าวถึงว่าคุณเป็นคนที่ก่อกรรมทำชั่วมาตลอด และบังคับให้หญิงสาวค้าประเวณี ก่อนหน้านั้นมีเจ้าของบริษัทคนหนึ่ง ซึ่งบริษัทมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน บริษัทกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว และเขาไม่เคยทำธุรกิจที่ก่อกรรมทำชั่วงานบังคับให้หญิงสาวค้าประเวณีอย่างเช่นคุณ เพียงแต่เขามีตาแต่หามีแววไม่ไปเสแสร้งต่อหน้าอาจารย์เย่ ตอนนี้เขายังคงแบกปูนอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง อาจารย์เย่กล่าวไว้ว่า แบกปูนครบยี่สิบปีเมื่อไหร่ก็จบสิ้นเมื่อไหร่! คุณบอกมาสิว่า ถ้าคุณเทียบกับเขาแล้วใครน่าสังเวชกว่ากัน?”
หลิวจงฮุยตกตะลึง
เมื่อกล่าวถึงเฉินเสี่ยวเฟย ทำให้เขารู้สึกเคียดแค้นเป็นอย่างมาก!
ดังนั้นเขาจึงกัดฟันและด่าสาปแช่งอยู่ในใจ “อีเฉินเสี่ยวเฟย ความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำลายงานนั้นมีอยู่เหลือเฟือ! ถ้ากูรู้แต่แรกว่ามึงจะนำหายนะใหญ่หลวงเช่นนี้มาให้กู กูจะไม่นอนกับมึงเด็ดขาด แต่จะส่งมึงไปทำงานเป็นสาวนั่งดริ้งที่ KTV! เมื่อเป็นเช่นนั้น วันนี้กูก็จะไม่ต้องมาประสบหายนะใหญ่หลวงเช่นนี้.....”
“เฮ้อ น่าเสียดาย เรื่องทุกอย่างไม่มีคำว่า ‘รู้ก่อน’ ท้ายที่สุดแล้วชีวิตไม่มีการหวนกลับ ต่อให้โกรธหรือไม่พอใจ ตอนกลางคืนก็ยังต้องไปทำงานเป็นบ๋อยที่ KTV?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขามองไปที่หม่าจงเหลียง ร้องไห้อ้อนวอนว่า “พี่จงเหลียง ต่อไปน้องคนนี้จะทำงานเป็นบ๋อยในสถานที่ของคุณ คุณต้องดูแลน้องคนนี้ด้วย...”
หม่าจงเหลียงหันหลังให้กับเย่เฉิน ตบหน้าอกของเขาเบา ๆ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “จงฮุย คุณวางใจเถอะ พี่ชายคนนี้จะดูแลคุณอย่างเงียบ ๆ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...