เธอมองไปที่เย่เฉิน รู้สึกว่ามีคำพูดมากมายแต่กลับพูดไม่ออก
เมื่อเย่เฉินเห็นว่าเธออยู่ในอาการภวังค์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เพียงแค่วางโทรศัพท์ไว้ในมือของเธอ จากนั้นก็กล่าวกับหม่าจงเหลียงว่า “เสี่ยวหม่า ต่อไปถ้าเพื่อนฝูงของคุณต้องการใช้พริตตี้ อย่าลืมสนับสนุนธุรกิจของบริษัทเวยเวยด้วย เข้าใจไหม?”
หม่าจงเหลียงกล่าวทันทีว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ หลังจากคุณเวยเวยเข้าไปบริหารบริษัทแล้ว ผมจะช่วยเธอโปรโมตบริษัท! ผมหม่าจงเหลียงมีหน้ามีตาอยู่ในกลุ่มอิทธิพลมืดของเมืองจินหลิงไม่มากก็น้อย และเพื่อนฝูงจะต้องเห็นแก่หน้าผมอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นรับรองว่าบริษัทโมเดลลิ่งของคุณเวยเวยจะมีงานมากมายแน่นอน!”
จากนั้น เขาก็รีบกล่าวต่อไปอีกว่า “อาจารย์เย่ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบการเปิด KTV หลายร้านภายใต้การดูแลของผม ประจวบเหมาะต้องการใช้บริการพริตตี้ ยังไงก็รบกวนคุณเวยเวยช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย!”
เย่เฉินถามเขาด้วยความสนใจว่า “อ้อ ช่างบังเอิญ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบเปิดร้านหรือ?”
“ใช่!” หม่าจงเหลียงยิ้ม “อาจารย์เย่คือผู้สูงส่งในโลกมนุษย์ ไม่ว่าใครที่มีเรื่องหรือไม่ ก็จะห้อมล้อมคุณอย่างลับ ๆ และซึมซับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมและสิ่งอื่นโดยไม่รู้ตัว!”
เย่เฉินรู้ดีว่า เขาจงใจประจบตนเอง แต่เย่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่กล่าวกับเซียวเวยเวยว่า “เวยเวย พรุ่งนี้คุณต้องวางแผนจัดกิจกรรมทั้งหมดของหม่าจงเหลียงให้ดี นี่ถือเป็นออเดอร์แรกของบริษัทใหม่ของคุณ ให้มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี!”
เซียวเวยเวย พยักหน้าอย่างเร่งรีบและกล่าวว่า “พี่เขย คุณวางใจเถอะ ฉันจะจัดการให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินฮึ่มประโยคหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวกับหม่าจงเหลียงว่า “พวกคุณที่อยู่ในกลุ่มอิทธิพลมืด เป็นคนที่ทำอะไรก็หยาบและไม่ค่อยมีมารยาท พรุ่งนี้พริตตี้เข้าไปทำงาน คุณต้องดูแลกิริยาของพวกเขาด้วย และอย่ามาล่วงเกินพริตตี้ เข้าใจไหม?”
หม่าจงเหลียงกล่าวทันทีว่า “อาจารย์เย่ คุณวางใจเถอะ ใครที่กล้าคิดร้ายกับคนของคุณเวยเวย ผมจะเล่นงานมันให้ตาย!”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และกล่าวกับเซียวเวยเวยว่า “อ้อ เวยเวย ผมมีเรื่องจะกำชับคุณอีกเรื่องหนึ่ง”
เย่เฉินมองไปที่หม่าจงเหลียงอีกครั้ง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณก็ปิดปากเงียบเหมือนกัน ถ้าใครกล้าไปพูดข้างนอกว่าเวยเวยเป็นน้องสาวของผม และกล้าไปพูดข้างนอกว่าผมเอาบริษัทนี้มาจากหลิวจงฮุยแล้วยกให้เธอ ผมก็จะส่งคนนั้นไปที่คอกสุนัขเพื่อไปสัมผัสประสบการณ์!”
สีหน้าของหม่าจงเหลียงและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูเคร่งเครียด จากนั้นก็รีบรับปากทันที
เย่เฉินถึงได้รู้สึกพึงพอใจ และกล่าวว่า “เอาล่ะ แค่นี้แหละ ผมจะกลับไปก่อน”
หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็หมุนคันเร่ง แล้วขับรถจักรยานไฟฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเซียวเวยเวยเห็นเย่เฉินจากไป ก็ตะโกนอยู่ข้างหลังว่า “ลาก่อนพี่เขย! ขอบคุณค่ะพี่เขย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...