เห็นเย่เฉินเชื้อเชิญด้วยความจริงใจ ฉินเอ้าเสวี่ยนจึงพยักหน้า แล้วตามเย่เฉินเข้าไปในบ้านด้วยความดีใจ
หลังจากเข้าบ้าน เย่เฉินก็เชิญเฉินเอ้าเสวี่ยนมานั่งบนโซฟาในโถงรับแขก จากนั้นก็หยิบอุปกรณ์ชงชาออกมา ชงชาให้เธอกาหนึ่ง
ฉินเอ้าเสวี่ยนยกชาที่เย่เฉินชงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “จริงสิ อาจารย์เย่ สองวันก่อนฉันไปเยี่ยมพี่หวั่นถิงมา!”
“หืม?” เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ ไปที่บริษัทเธอหรือว่าไปที่บ้านเธอ?”
“ไปบ้านเธอเลยค่ะ” ฉินเอ้าเสวี่ยนพูด “ฉันกังวลว่าหลังจากที่พี่หวั่นถิงผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนั้น แล้วรู้สึกแย่ ก็เลยไปเยี่ยมเธอที่บ้านเธอค่ะ”
เย่เฉินพยักหน้า นึกขึ้นมาว่าตั้งแต่แก้ไขวิกฤตของตระกูลซ่งได้ หลังทำให้ซ่งหวั่นถิงแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดจระกูลซ่งกลับมาได้อีกครั้ง ตนก็ไม่มีเวลาไปเยี่ยมเธออีกเลย ด้วยเหตุนี้จึงถามฉินเอ้าเสวี่ยนว่า “ตอนนี้สถานการณ์ของหวั่นถิงเป็นยังไงบ้าง?”
ฉินเอ้าเสวี่ยนเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “พี่หวั่นถิงสบายดีมากค่ะ”
พูดเสร็จ เธอก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา จึงรีบกล่าวว่า “จริงสิคะ อาจารย์เย่ ที่บ้านพี่หวั่นถิงเลี้ยงสุนัขพันธุ์อากิตะอยู่ตัวหนึ่ง เป็นพันธ์ุแท้แถมยังน่ารักมาก ฉันว่าทั่วทั้งจินหลิงคงหาพันธุ์อากิตะที่สายเลือดดีขนาดนั้นไม่ได้แล้ว เธอบอกว่าเพื่อนคุณเป็นคนมอบให้เธอ?”
“ใช่” เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “เมื่อหลายวันก่อนตอนอยู่ญี่ปุ่น ฉันพาเธอไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนคนญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่บ้านเพื่อนญี่ปุ่นคนนั้นเลี้ยงสุนัขพันธุ์อากิตะไว้ไม่น้อยเลย เห็นหวั่นถิงชอบ เลยมอบให้เธอตัวหนึ่ง”
ในดวงตาของฉินเอ้าเสวี่ยนเต็มไปด้วยความอิจฉา พลางพูดว่า “สุนัขตัวนั้นของพี่หวั่นถิงชื่อยูกิ เป็นตัวเมีย ฉันตกลงกับเธอแล้วว่ารอยูกิโตแล้ว จะให้ยูกิคลอดลูกสนัขสักคอกหนึ่ง ถึงเวลาก็จะมอบให้ฉันหนึ่งตัว!”
เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “งั้นเธอก็ต้องรออย่างน้อยหนึ่งปี”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ หนึ่งปีแป๊บเดียวก็ผ่านไปแล้ว”
พูดเสร็จ เธอก็ถามเย่เฉินอีกว่า “จริงสิคะ อาจารย์เย่ ระยะนี้สักสองสามวันคุณว่างไหมคะ?”
เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดอย่างเขินอายอยู่บ้าง “คืออย่างนี้ค่ะ...ตั้งแต่เอาชนะอิโตะ นานาโกะในการแข่งขันครั้งล่าสุดมาได้ หลังได้ตำแหน่งแชมเปี้ยนมา ฉันก็หมั่นฝึกฝนอยู่ในบ้านมาตลอด แต่มักรู้สึกว่าก้าวหน้าได้ช้ามาก คิดว่าประเด็นหลักยังคงเป็นเพราะไม่มีโค้ชอาวุโสสักคนไว้ชี้แนะแบบตัวต่อตัว ดังนั้นหากคุณมีเวลาล่ะก็ ฉันอยากจะเชิญคุณไปนั่งที่บ้านฉันอีก ถือโอกาสชี้แนะให้ฉันสักหน่อย ไม่รู้...ไม่รู้ว่าอาจารย์เย่จะสะดวกหรือไม่...”
เย่เฉินนิ่งคิด จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แค่เรื่องเล็กน้อย เอาอย่างนี้แล้วกัน รอฉันหลอมยาเสร็จแล้ว ย่อมต้องเชิญทุกคนมานั่งทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ถือโอกาสเอายามอยให้ทุกคนด้วย ถึงเวลาก็รบกวนพ่อเธอจัดเตรียมอาหารไว้สักโต๊ะที่บ้าน เชิญทุกคนมาพบปะกันที่บ้านของสักหน่อย ถึงเวลาฉันจะไปที่นั่นล่วงหน้าสักสองสามชั่วโมง ชี้แนะให้เธอ”
พอฉินเอ้าเสวี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็พูดอย่างกระตือรือร้นทันที “อาจารย์เย่ช่างดีเหลือเกิน! หากเป็นอย่างนี้ล่ะก็ ฉันจะกลับไปบอกกับพ่อเดี๋ยวนี้ ให้เขาเตรียมอาหารที่ดีที่สุดไว้ที่บ้าน!”
“ในจำนวนนั้น ย่อมขาดความช่วยเหลือของชุดว่ายน้ำเช่นนี้ไปไม่ได้ แต่เวลานั้นกฎในการแข่งไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ ในการใช้ชุดว่ายน้ำเช่นนี้ ดังนั้นเหรียญทองของเขาจึงได้มันมาด้วยความสบายใจ ไม่มีอะไรเสียเกียรติ”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้าน้อยๆ แล้วพูดว่า “ความหมายของคุณฉันเข้าใจแล้วค่ะ...”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ “การแข่งน่ะ เล่นตามกฎกติกาก็พอ ดังนั้นอยู่ทางนี้เธอไม่จำเป็นต้องห่วงกังวลใดๆ ไม่เพียงไม่อาจมีความห่วงกังวลได้ ภายหน้ายังต้องเข้าร่วมแข่งขันระดับประเทศต่อ คว้าเกียรติยศมาให้กับประเทศมากๆ!”
ฉินเอ้าเสวี่ยนรีบร้อนพูดว่า “ได้ค่ะ อาจารย์เย่ เอ้าเสวี่ยนจะต้องใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีลงสนามแข่ง นำชัยชนะมาให้มากขึ้น!”
พูดเสร็จ ฉินเอ้าเสวี่ยนก็ดูเวลา พูดอย่างลำบากใจอยู่บ้าง “อาจารย์เย่ ช่วงเที่ยงคุณจะต้องมีธุระแน่ เอ้าเสวี่ยนก็ไม่รบกวนมากแล้วค่ะ แต่อย่างไรก็อย่างลืมเรื่องที่ตกลงกันไว้เมื่อกี้ด้วยนะคะ...”
เย่เฉินพยักหน้ากล่าวว่า “วางใจ หลังฉันหลอมยาเสร็จแล้ว จะติดต่อกับพ่อเธอ”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้า จากนั้นก็ยืนขึ้น แล้วกล่าวอย่างนอบน้อม “อาจารย์เย่ คุณไม่ต้องส่ง เอ้าเสวี่ยนขอตัวก่อน!”
เย่เฉินก็ยืนขึ้นเช่นกัน แล้วกล่าวว่า “ฉันจะไปส่ง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...