เซียวไห่หลงน้ำตานองหน้า “คุณย่า ในที่สุดผมก็จะได้กินเนื้อบ้างนิดหน่อยในทุกวันแล้ว...”
“นั่นน่ะสิ...” นายหญิงใหญ่เซียวถอนหายใจ เอ่ยต่อว่า “รอให้แกและพ่อแกหายดีแล้ว ก็ไปหางานทำคนละงาน ไม่กล้าเพ้อฝันว่าจะมีเงินมากมาย แต่พวกแกสองคน ถ้าเดือนหนึ่งได้สักห้าหกพันก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว ถึงตอนนั้นบ้านของเราก็จะมีรายได้ต่อเดือนหนึ่งหมื่นห้าถึงหกพัน เมื่อถึงวันนั้น ชีวิตแบบนี้ของพวกเรา ก็จะได้ผ่านพ้นไปเสียที!”
เซียวเวยเวยได้ยินคำพูดนี้ ก็หดหู่ใจอย่างยิ่ง
เธอคิดในใจว่า “ตระกูลเซียวในเมื่อก่อน ไม่กล้าบอกว่าร่ำรวยเงินทอง แต่อย่างน้อยก็มีทรัพย์สินสิบกว่าล้าน แม้กระทั่งร้อยกว่าล้าน...”
“ตอนนั้น ในหนึ่งเดือน แค่ค่ากินอย่างเดียวของทั้งครอบครัวก็เป็นจำนวนประมาณหมื่นกว่า หรือแม้กระทั่งมากกว่านี้”
“แต่ตอนนั้นทุกคนกลับไม่พอใจ มักจะรู้สึกว่าใช้ชีวิตได้ไม่ดีพอ คิดหาวิธีทุกอย่างเพื่อประจบและอิงผู้มีอิทธิพล...”
“ตอนนี้ หลังจากที่ผ่านเรื่องราวตั้งมากมายนี้แล้ว ความต้องการที่คนในครอบครัวมีต่อสภาพชีวิต ก็ลดน้อยลงอย่างมาก”
“เมื่อก่อนกินดีแค่ไหนก็ไม่พอใจ แต่ตอนนี้ ขอแค่ได้กินเนื้อสักมื้ออาหารทุกวัน มีเงินเหลือเก็บสักนิดหน่อยในทุกวัน ในความคิดของคนในครอบครัว ก็เป็นชีวิตที่ดีที่ถวิลหาแม้ในยามฝันแล้ว...”
“แม้นึกย้อนขึ้นมาจะปวดใจมาก แต่ก็บาดใจมากจริงๆ นั่นแหละ...”
เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น ภายในหัวของเซียวเวยเวยก็ปรากฏเป็นหน้าตาของเย่เฉิน คิดในใจอีกว่า “คนอย่างเย่เฉินพึ่งพาได้มากที่สุดอยู่ดี ต่อให้จะเป็นช่วงชีวิตที่จนที่สุด ก็สามารถผ่านพ้นไปได้อย่างมั่นคง เมื่อเขาได้กลายเป็นอาจารย์เย่บุคคลชั้นสูงที่ผู้คนเคารพนับถือแห่งจินหลิง เขาก็ไม่ลืมปณิธานเดิม ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเซียวชูหรันอย่างสงบ...”
เมื่อนึกมาถึงตอนนี้ เธอควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็เพิ่มวีแชทของเย่เฉินอย่างเงียบๆ
เวลานี้เย่เฉินเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ ฉินกางก็วอยซ์คอลมาหาเขา หลังกดรับสาย ก็เอ่ยขึ้นด้วยความสุภาพ “อาจารย์เย่ เอ้าเสวี่ยนบอกผมว่า คุณให้ผมจัดงานเลี้ยงต้อนรับทุกคนที่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณสะดวกเมื่อไร?”
เย่เฉินเอ่ย “วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีแล้ว งั้นพวกเราก็กำหนดเป็นคืนวันศุกร์ชั่วคราวก่อน นายว่าเป็นยังไง?”
ฉินกางเอ่ยขึ้นมาอย่างเคารพสุภาพ “เวลาของกระผมไม่มีปัญหา ยึดตามเวลาที่อาจารย์เย่สะดวกเลย”
เย่เฉินตอบกลับ อืม แล้วเอ่ยขึ้นว่า “งั้นก็กำหนดเป็นคืนวันศุกร์ก็แล้วกัน นายช่วยฉันเชิญทุกคนหน่อยนะ”
ฉินกางรีบเอ่ย “อาจารย์เย่ ผมรายงานจำนวนคนสักหน่อย คุณดูว่าถูกต้องหรือเปล่า”
“ได้”
ฉินกางเอ่ย “ก่อนอื่นคือคุณซ่งและคุณท่านซ่งจากตระกูลซ่ง จากนั้นหมอเทพซือ ซือเทียนฉี ต่อมาก็เป็นผู้จัดการทั่วไปเฉิน เฉินจื๋อข่าย เศรษฐีเมืองไห่ หลี่ไท่หลาย ท่านหงห้า หวังเจิ้งกางแห่งตระกูลหวัง เว่ยเลี่ยงแห่งบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน”
เวลาต่อมา เซียวเวยเวยก็ส่งข้อความมาในทันที “พี่เขย ทางบริษัทฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว มีพนักงานสาวให้บริการจำนวน 300 คนที่ยินยอมร่วมมือกับเรา ขอรายงานให้พี่ได้รับทราบ!”
เย่เฉินเองก็ตกใจกับจำนวนคนเล็กน้อย คิดอยู่ในใจว่าเซียวเวยเวยน่าจะทำได้ไม่เลว จึงได้ตอบกลับ “ดีมาก พยายามต่อไปนะ”
เซียวเวยเวยรีบตอบ “ได้เลยพี่เขย ฉันจะทุ่มเทแรงกายทั้งหมด!”
ต่อมา ก็ส่งมาอีกหนึ่งประโยค “พี่เขย ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะขอยื่นอนุมัติหน่อย...”
เย่เฉินเอ่ยถาม “พูดมาเถอะ”
เซียวเวยเวยเอ่ย “พี่เขย ที่บ้านต้องการใช้เงินค่อนข้างเยอะ ฉันเลยอยากจะขอยื่นอนุมัติเบิกเงินเดือนครึ่งเดือนล่วงหน้า ได้ไหม?”
เย่เฉินทราบว่าเธอจำต้องมีจุดที่ลำบาก จึงได้ตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา เอ่ยว่า “ไม่มีปัญหา ไปบอกกับฝ่ายการเงินก็ได้แล้ว”
เซียวเวยเวยส่งอิโมจิซาบซึ้งใจไปทันที พร้อมส่งไปว่า “ขอบคุณพี่เขย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...