เย่เฉินซาบซึ้งในเรื่องหนึ่งของเซียวชูหรันมาก นั่นคือตั้งแต่ที่แต่งงานกับเธอในหลายปีมานี้ เธอไม่เคยที่จะรังเกียจฐานะทางสังคมเดิมของตนเลย
ถึงอย่างไร ผู้ชายธรรมดาที่พ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่ในตอนอายุแปดขวบ เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า การศึกษาที่ในประเทศยอมรับก็มีเพียงมัธยมปลาย อีกทั้งยังไม่มีทรัพย์สมบัติอันใด กระทั่งฐานะยากจนไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่สมรสที่เหมาะสมแต่อย่างใด
ทว่า เธอเป็นสาวงามอันดับต้นๆ ของจินหลิง กลับมาแต่งงานกับตนโดยปราศจากคำบ่น อีกทั้งเมื่อแต่งงานกันก็อยู่ด้วยกันมาสี่ปี
ในสี่ปีนี้ มีแต่คนยุยงเธอเต็มไปหมด บังคับให้เธอหย่าร้างกับตนเสีย เธอกลับไม่เคยสั่นคลอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เพียงแค่ประเด็นนี้ ภายในใจของเย่เฉินก็รู้สึกซาบซึ้งต่อเธออย่างมากแล้ว
ช่วงเวลานี้ เย่เฉินเองก็อยากจะหาโอกาส ในการสารภาพเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของตนต่อเซียวชูหรันเหมือนกัน ทว่าเมื่อนึกถึงว่ายังไม่ได้แก้แค้นให้กับพ่อแม่ กระทั่งยังสืบสาเหตุการตายของพ่อแม่ได้เจอเลย เขาจึงรู้สึกลังเลมาตลอด
บัดนี้ สิ่งที่เขาสามารถสืบได้กระจ่างแจ้งนั้น มีเพียงพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่อย่างเดียว
ตอนนั้น ขณะที่พ่อแม่ยังอยู่ที่เย่นจิง พันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ได้ทำเรื่องที่เพ่งเล็งมายังพวกเขามากมายจริงๆ ทว่าในความทรงจำวัยเยาว์ของเขา การที่พ่อแม่ตัดสินใจออกจากตระกูลเย่ มิใช่เพราะว่าพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ แต่เป็นเพราะเย่ฉางอิงผู้เป็นบิดาได้ทะเลาะกับเย่โจงฉวนผู้เป็นปู่เพราะเรื่องบางเรื่องอย่างรุนแรง
หลังทะเลาะกันครั้งนั้น พ่อแม่จึงได้ตัดสินใจออกจากตระกูลเย่ สามคนพ่อแม่ลูกมาใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาที่จินหลิง
ทว่า มาที่จินหลิงได้ไม่นาน พ่อแม่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ทว่า เย่เฉินเชื่อมั่นมาเสมอว่า การตายของพ่อแม่ มิใช่อุบัติเหตุแน่นอน เบื้องหลังจำต้องมีคนร้ายวางแผนจัดการแน่นอน
เพียงแต่ว่า ในตอนนี้เขาไร้ซึ่งเบาะแส ว่าผู้ใดกันแน่ที่ทำร้ายพ่อแม่ตนจนถึงแก่ชีวิต
ก่อนอื่น เขาไม่รู้ว่าตระกูลเย่คือศัตรูหรือมิตร
ต่อมา เขาไม่รู้ว่าตระกูลซูรับบทบาทเป็นอะไรกันแน่ในเรื่องนี้
สุดท้าย เขาจำได้ว่าถังซื่อไห่เคยกล่าวไว้ว่า ตอนนั้นพ่อแม่ได้ผิดใจกับตระกูลรอธส์ไชลด์ ผู้เป็นที่หนึ่งของยุโรป เพราะฉะนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าตระกูลรอธส์ไชลด์เป็นผู้วางแผนฆ่าพ่อแม่ ตอนนี้เขาเองก็ไม่สามารถยืนยันได้เช่นกัน
เบื้องหน้ามีหมาป่า เบื้องหลังมีเสือ ริมฝั่งมหาสมุทรตรงข้ามยังมีสัตว์ตัวยักษ์ดุร้ายอยู่ ตอนนี้แม้เย่เฉินจะมีกำลังอยู่บ้าง ทว่ายังคงรู้สึกว่าตนอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากๆ อยู่ดี
การขนส่งทางรถไฟที่ผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปและอเมริกาในปีนั้น ก็อยู่ในการควบคุมดูแลของตระกูลนี้ทั้งหมด สำหรับผลิตภัณฑ์แร่อันล้ำค่าอย่างทองคำ เพชรและอื่นๆ ก็เป็นกิจการที่มีมาแต่ดั้งเดิมของพวกเขาเช่นกัน
คำนวณอย่างหยาบๆ มูลค่าทรัพย์สินทั้งตระกูล อย่างน้อยๆ ก็มากกว่าล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือพูดอีกอย่างก็คือ รอธส์ไชลด์เพียงตระกูลเดียว จำนวนของทรัพย์สิน ก็มากกว่าของตระกูลเย่สิบเท่า
ที่น่ากลัวกว่านี้ก็คือ ในฐานะที่รอธส์ไชลด์เป็นตระกูลยิวเก่าแก่ มีอำนาจส่งผลกระทบต่อวงการการเมืองในยุโรปและอเมริกาเป็นอย่างมาก เจ้าพ่อที่อยู่วอลล์สตรีตเหล่านั้น แทบจะเป็นชาวยิวทั้งหมดไม่มียกเว้น ความอยู่รอดทั้งหมดของอเมริกา แทบจะอยู่ในกำมือพวกเขาทั้งหมด ดังนั้น ตระกูลที่มีสถานะเช่นนี้ สามารถขับเคลื่อนสงครามระหว่างประเทศอยู่ลับๆ ได้เลย!
เมื่อเผชิญกับตระกูลเหล่านี้ ทรัพย์สินและกำลังของเย่เฉินในตอนนี้ ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงโดยสิ้นเชิง
หากว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในเวลานี้ ก็ไม่ทราบได้ว่าจะก่อให้เกิดหายนะแบบใดขึ้นมาได้บ้าง
ภายในสถานการณ์เช่นนี้ เย่เฉินไม่กล้าที่จะบอกเล่าความในใจกับเซียวชูหรันจริงๆ
เขาคิดว่า อย่างน้อยก็ต้องรอให้เขากระจ่างแจ้งเรื่องสาเหตุการตายของพ่อแม่ ตระกูลเย่เป็นศัตรูหรือมิตร รวมถึงตนและตระกูลรอธส์ไชลด์มีความแค้นต่อกันหรือไม่กันแน่เสียก่อน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...