เซียวชูหรันไม่ทราบว่าบัดนี้สามีที่อยู่ข้างๆ ตนนั้น กำลังครุ่นคิดอันใดอยู่ในใจ เธอรับประทานผลไม้ไป พร้อมเอ่ยสอบถาม ด้วยสีหน้าที่ตั้งตาคอยความหวังว่า “คุณสามี ถ้าฉันได้โครงการนี้มา ต่อจากนี้ไปคุณก็จะไม่ต้องมีความกดดันเยอะแบบนี้แล้ว”
เย่เฉินเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง “ผมไม่มีความกดดันอะไรอยู่แล้วนี่นา ตอนนี้ผมหาเงินมาได้สบายๆ อยู่นะ เพราะงั้นคุณไม่ต้องมีความกดดันอะไรเลย ถ้าโครงการนี้มันเหนื่อยเกินไป งั้นก็อย่าไปเข้าร่วมงานประมูลเลย เตรียมการประมูลก็เหนื่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าได้โครงการนี้มาจริงๆ เกรงว่าคงต้องเหนื่อยกว่านี้แน่”
เซียวชูหรันยิ้ม เอ่ยว่า “เหนื่อยหน่อยช่างมันเถอะ คนเราจะปฏิเสธการพัฒนาเพียงเพราะเหนื่อยไม่ได้หรอก ถ้าบริษัทยิ่งใหญ่แข็งแกร่งขึ้นมาได้ ต่อจากนี้ไปฉันก็จะได้แบ่งงานหลายอย่างออกไป มุ่งมั่นอยู่กับการบริหารอย่างเดียว ถ้าเป็นแบบนี้ความจริงก็ไม่เหนื่อยขนาดนั้น ที่เหนื่อยที่สุดก็คือโหมดการทำงานที่ทำร่วมกันหลายคน ตัวเองเป็นบอสใหญ่ ทั้งยังเป็นพนักงานด้วย อะไรก็ต้องลงแรงทำเองกับมือ”
เย่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย “ก็เป็นแบบนี้จริงๆ นั่นแหละ ที่กลัวที่สุดก็คือสถานะสองอย่างผสมปนเปกัน”
เซียวชูหรันอมยิ้ม เอ่ยว่า “เอาละ คุณไม่ต้องเห็นใจฉันหรอกนะ ฉันยังต้องทำภาพร่างต่อ คุณกลับห้องนอนไปพักผ่อนก่อนเถอะนะ”
เย่เฉินเอ่ย “งั้นก็ได้ ภรรยาคุณทำงานไปก่อนนะ ผมไม่รบกวนคุณละ ถ้ามีอะไรให้ช่วยเรียกผมได้เลยนะ”
...
ในขณะเดียวกันนี้ ฉินกางที่ตื่นเต้นดีใจอย่างถึงที่สุด กำลังจะโทรหาผู้ที่เย่เฉินต้องการที่จะเชื้อเชิญมา
ในคนเหล่านี้ ส่วนมากล้วนเป็นคนสนิทเก่าแก่ของเขา เพื่อนเก่ากันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อต้องการติดต่อจึงสบายๆ มากๆ โทรไปเพียงสายเดียว บอกกล่าวเรื่องราวให้ทุกคนฟัง ทุกคนก็ล้วนตอบรับอย่างตื่นเต้นทันที
การมอบยาครั้งยิ่งใหญ่ของเย่เฉินเคยมีเพียงครั้งเดียว
ครั้งนั้น ทุกคนล้วนได้รับความกรุณาจากบุญคุณเขา และได้รับยาวิเศษในสายตาของพวกเขาไปหนึ่งเม็ด
ครั้งนี้ เย่เฉินต้องการมอบยาให้อีกครั้ง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องยินดีปรีดาอย่างมากอยู่แล้ว
หลี่ไท่หลายที่เจ้าตัวอยู่ไห่โจว เมื่อได้ยินว่าเย่เฉินมีความประสงค์เชื้อเชิญไปเป็นแขก ถึงขั้นให้จ้าวเห้าสหายเมื่อเย่เฉินอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขับรถพาเขามายังจินหลิงก่อนภายในคืนนั้นเลย
หลี่ไท่หลายเองก็มีอสังหาริมทรัพย์อยู่ไม่น้อยในจินหลิง ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่ามาพักที่จินหลิงในคืนนั้นเลย เพื่อป้องกันวันพรุ่งเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นโดยไม่คาดคิด ส่งผลให้การเดินทางตนนั้นล่าช้า
ที่ให้ความสำคัญเพียงนี้ หลักๆ เป็นเพราะ ในความคิดของเขา โอกาสในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ได้มายากอย่างยิ่ง
ผู้ที่ยังไม่ได้รับการแจ้งจากฉินกาง ก็คือหวังตงเสวี่ยนแห่งตี้เหากรุ๊ป
เย่เฉินวางสายจากฉินกาง จากนั้นก็โทรหาหวังตงเสวี่ยน
เมื่อต่อสายติด ปลายสายหวังตงเสวี่ยนก็เอ่ยขึ้นด้วยความนอบน้อม “ท่านประธาน ท่านมีอะไรรับสั่งหรือเปล่า?”
เย่เฉินขมวดคิ้วขึ้นตามสัญชาตญาณ ปกติแล้ว เมื่อคุยกันในเวลาส่วนตัว หวังตงเสวี่ยนจะเรียกตนว่าคุณชาย ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว เหตุใดเธอจึงยังเรียกตนว่าท่านประธานอยู่อีก? หรือว่าตอนนี้เธอไม่สะดวกที่จะคุย?
เมื่อนึกได้ดังนี้ เย่เฉินเองจึงได้เอ่ยขึ้นอย่างเป็นทางการ “รองประธานหวัง ผมอยากจะมาถามว่าคืนวันพรุ่งนี้คุณว่างหรือเปล่า? ผมจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำ อยากจะเชิญคุณมาร่วมงานหน่อย”
หวังตงเสวี่ยนลังเลไปชั่วครู่ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด “ท่านประธาน ต้องขอโทษจริงๆ ตอนนี้ฉันยังยืนยันเวลาไม่ได้ พรุ่งนี้ค่อยตอบท่านได้ไหม?”
เย่เฉินฉงนใจยิ่ง จึงเอ่ยถามว่า “รองประธานหวัง คุณไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”
หวังตงเสวี่ยนเอ่ยด้วยความไม่เป็นธรรมชาติ “ไม่มีอะไรท่านประธาน ก็แค่มีแขกมาบ้านเลยต้องต้อนรับดูแลน่ะ เพราะงั้น...”
เย่เฉินยิ้ม เอ่ยตอบกลับ “ได้ งั้นก็ไว้ติดต่อกันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไรหรอก พวกเราค่อยนัดกันเป็นการส่วนตัววันหลังก็ได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...