ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่มองหาผู้ชายที่เหมาะสมอยู่บ้างให้เธอไม่น้อย หวังเฉินหย่วนถึงขั้นคิดจะเอาลูกศิษย์อวดดีในตอนนั้นของตนคนหนึ่งมาแนะนำให้กับเธอ แต่โอกาสที่เธอจะได้พบหน้าทานข้าวสักมื้อกลับไม่มีให้อีกฝ่าย
เวลานี้หวังตงเสวี่ยนพบว่ามารดาดูมีภาพจำต่อเย่เฉินดีมากเป็นพิเศษ ตอนนี้ต้องการรั้งให้เย่เฉินอยู่ จะต้องอยากสอบถามข้อมูลบางอย่างจากเย่เฉิน อาจถึงขั้นที่ว่าคิดจะลองหยั่งเชิงความสัมพันธ์ของตนกับเขาอีกด้วย แล้วถือโอกาสจับคู่ให้เสียเลย
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบร้อนเอ่ยปากกล่าวว่า “แม่คะ...เย่เฉินยังหนุ่ม วัยแตกต่างกับพวกแม่ คุยด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ อย่าสร้างความลำบากให้คนอื่นเขาจะดีกว่า!”
ซุนยู่ฟางรีบร้อนกล่าวว่า “ดูแกพูดสิ แม้ว่าแม่กับพ่อแกจะอายุเยอะอยู่บ้าง แต่เรื่องของคนวัยหนุ่มสาวพวกเราเข้าใจดีอย่างมากเชียวล่ะ”
เวลานี้เย่เฉินจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ตงเสวี่ยน เธอไปซื้อของก่อนเถอะ อย่าทำให้เวลาทานข้าวของคุณลุงล่าช้า ฉันจะอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณลุงคุณน้าสักพัก”
ในใจหวังตงเสวี่ยนลำบากใจอย่างยิ่ง เธอเกิดกลัวว่ามารดาจะพูดเหลวไหลหรือถามส่งเดชต่อหน้าเย่เฉิน แต่เย่เฉินก็พูดเองแล้วว่าต้องการอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ตนก็ไร้หนทางจะดึงดันต่อไปเช่นกัน
ภายใต้ความจนปัญญา เธอจึงได้แต่กล่าวกับเย่เฉินว่า “งั้นก็รบกวนคุณอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ฉันที่นี่แล้ว ฉันไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”
พูดเสร็จ เธอก็นึกอะไรออก รีบร้อนถามอีกว่า “สายป่านนี้แล้ว คุณรีบกลับบ้านไหม? คงไม่ทำให้คุณเสียเวลาหรอกนะ?”
เย่เฉินโบกมือ “ไม่เป็นไร เธอรีบไปเถอะ”
หวังตงเสวี่ยนได้แต่พยักหน้า “งั้นฉันไปก่อนนะ”
กล่าวจบ ก็กำชับซุนยู่ฟางผู้เป็นมารดาอีกว่า “แม่คะ แม่อย่าเที่ยวคุยอะไรไร้สาระกับเย่เฉินเชียวนะ หนูจะรีบกลับมา!”
ซุนยู่ฟางโบกมือพลางกล่าวว่า “โธ่เอ๊ย แกวางใจได้ แม่จะคุยอะไรไร้สาระกับคนอื่นเขาได้เหรอ? ก็แค่คุยเรื่อยเปื่อยสองสามคำเท่านั้น แกก็อย่ากังวลนักเลย รีบไปเร็วเข้าเถอะ!”
หวังตงเสวี่ยนจนปัญญา ได้แต่ออกไปจากห้องคนไข้อย่างไม่สบายใจ
หวังตงเสวี่ยนเพิ่งจะเดินออกไป ซุนยู่ฟางก็อมยิ้มมองเย่เฉิน แล้วถามว่า “คุณเย่ ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”
“แต่ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้ผมก็หลุดพ้นจากสถานะพ่อบ้านเต็มตัวแล้ว ดังนั้นผมในตอนนี้จึงนับว่าทำอาชีพอะไรดีล่ะ? บริษัทเอกชน?”
“อืม...จะบอกว่าเป็นบริษัทเอกชนก็ไม่ต่างกันนัก อย่างไรก็ทีตี้เหากรุ๊ปแห่งหนึ่ง แล้วก็มีบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนอีกแห่งหนึ่ง”
คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณน้าครับ ตอนนี้ผมมีบริษัทเล็กๆ ของตัวเองอยู่สองแห่ง นับเป็นร้านค้าเอกชนที่เพิ่งเริ่มกิจการได้สินะ”
พอซุนยู่ฟางได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ร้านค้าเอกชนก็ดีมากแล้ว! แม้ร้านค้าเอกชนอาจจะทำกำไรได้ไม่มากนัก แต่ก็ค่อนข้างเป็นอิสระอย่างมาก! สำหรับคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอแล้ว กำไรจะมากจะน้อยอันที่จริงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ความสบายใจ ความเป็นอิสระต่างหากที่สำคัญที่สุด!”
พูดเสร็จ เธอก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ จากนั้นก็กล่าวว่า “น้าก็คอยบอกกับตงเสวี่ยนอยู่ตลอด อย่าเอาแต่จดจ่ออยู่กับงานมากขนาดนี้ เงินมากเงินน้อยก็สามารถมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมได้ ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองใช้ชีวิตที่เหนื่อยขนาดนี้ทุกวัน แต่เด็กคนนี้ก็ไม่ฟัง...”
พูดมาถึงตรงนี้ ซุนยู่ฟางก็มองไปที่เย่เฉิน แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “เสี่ยวเย่ ต่อไปเธอต้องช่วยน้าเกลี้ยกล่อมเธอให้มากๆ หน่อยนะ ให้เธออาศัยเวลาตอนยังสาว พูดคุยเรื่องความรักบ้าง เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก นี่ไม่ดีกว่าเงินทองขี้ประติ๋วนั่นหรอกหรือ? เธอว่าจริงไหม?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...