เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ซุนยู่ฟางจะเชิญตนไปกินข้าวที่บ้านของเธอ
กำลังคิดจะหาข้ออ้างปฏิเสธ กลับกลายเป็นว่าซุนยู่ฟางไม่รอให้เขาเอ่ยปาก ก็รีบร้อนกล่าวอีกว่า “พรุ่งนี้วันเสาร์พอดี ตงเสวี่ยนเองก็ไม่ได้ทำงาน สามารถช่วยน้าทำกับข้าวเพิ่มอีกหลายอย่างที่บ้านได้”
หวังเฉิงหย่วนที่อยู่บนเตียงคนไข้ก็เอ่ยปากอย่างเห็นพ้องว่า “ใช่แล้วเสี่ยวเย่ มากินข้าวที่บ้านเถอะ ถือเสียว่ามาเที่ยวบ้านก็แล้วกัน”
เพียงแต่หวังเฉิงหย่วนไม่รู้ว่าอันที่จริงเย่เฉินเคยไปบ้านเขามาแล้ว
เห็นซุนยู่ฟาง หวังเฉิงหย่วนทั้งสองคนพูดเช่นนี้แล้ว เย่เฉินจะมากจะน้อยก็รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง
เขาไม่อยากรับปากทานข้าวมื้อนี้เท่าไหร่นัก แต่ในใจก็รู้สึกไม่ดีที่จะหักหน้าผู้อื่น
ตอนที่เขากำลังขึ้นขี่หลังเสือยากจะลงอยู่นั้น หวังตงเสวี่ยนก็รีบร้อนเอ่ยปากขึ้นว่า “แม่คะ พรุ่งนี้หนูมีธุระนิดหน่อย บริษัทมีงานล่วงเวลา ไว้เป็นวันอื่นดีไหมคะ?”
“หา? พรุ่งนี้ยังมีโอทีอีกเหรอ?” ซุนยู่ฟางพูดอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก “สุดสัปดาห์ยังจะมีโอทีอะไรอีก?”
อันที่จริงหวังตงเสวี่ยนไม่ได้มีโอทีอย่างที่ว่าจริงๆ แต่เป็นเพราะเธอมองออกว่าพ่อกับแม่อาจมีความรู้สึกที่ดีต่อเย่เฉิน เดาออกว่าพ่อกับแม่อาจจะคิดใช้โอกาสเชิญเย่เฉินมาทานข้าว เพื่อทำความรู้จักเข่เฉินมากขึ้น
ดังนั้นเธอเองก็เดาออกว่าพ่อกับแม่จะต้องไม่รู้ว่าตอนนี้เย่เฉินแต่งงานแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกเขาไม่มีทางแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้แน่
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเตรียมปัดเรื่องที่เชิญเย่เฉินไปทานข้าวที่บ้านทิ้งไว้ด้านหลัง จากนั้นก็พูดกับพ่อแม่ให้ชัดเจน ต่อให้ไม่อาจบอกฐานะที่แท้จริงของเย่เฉินแก่พวกเขาได้ แต่อย่างน้อยก็ควรให้พวกเขารู้ว่าเย่เฉินมีภรรยาแล้ว ทำให้พวกเขาอย่ามีคาดหวังอีก
คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็พูดอย่างจริงจังเป็นพิเศษ “แม่คะ พรุ่งนี้หนูมีธุระจริงๆ ค่ะ ไม่เพียงแค่พรุ่งนี้ วันต่อมาก็ยังมีธุระอีกมากมาย พักนี้ค่อนข้างยุ่งมากจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นสัปดาห์นี้พวกเราก็อย่าเพิ่งนัดหมายกันเลยดีกว่าค่ะ สัปดาห์หน้าค่อยดูเวลา แล้วค่อยเจออีกดีไหมคะ?”
ซุนยู่ฟางได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ก็รู้ว่าไร้หนทางจะดื้อดึงต่อไป ที่เธอต้องการคือการให้เย่เฉินมาทานข้าวพร้อมกับพวกเขาสามคนครอบครัวที่บ้าน แต่หากลูกสาวมีธุระมาไม่ได้ ตนกับสามีเชิญเย่เฉินมาทานข้าวที่บ้าน จะมากจะน้อยก็ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้แต่กล่าวว่า “งั้นก็ได้ งั้นสัปดาห์นี้ยังไม่นัดเสี่ยวเย่มาทานข้าวที่บ้านก่อน สัปดาห์หน้าดูว่างานของลูกเป็นอย่างไร พวกเราก็นัดกันแต่เนิ่นๆ สุดสัปดาห์หน้าก็พยายามเชิญเสี่ยวเย่มาทานข้าวที่บ้าน”
ซุนยู่ฟางรู้ว่าตนทำเย่เฉินเสียเวลาไม่น้อย จึงรีบร้อนกล่าวว่า “ได้สิ เสี่ยวเย่ น้าจะออกไปส่งเธอนะ แล้วให้ตงเสวี่ยนไปส่งเธอที่ลานจอดรถ”
เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับคุณน้า ผมไปเองได้”
หวังตงเสวี่ยนรีบพูดว่า “เย่เฉิน ถ้าไม่อย่างนั้น...ให้ฉันไปส่งคุณเถอะ!”
เย่เฉินโบกมือ “พอแล้วตงเสวี่ยน เธอก็อย่าไปส่งฉันเลย อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณลุงคุณน้าเถอะ นอกจากนี้หากเย็นนี้คุณลุงเตรียมตัวออกจากโรงพยาบาลล่ะก็ เธอยังต้องรีบวุ่นทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลอีกนะ”
ได้ยินเช่นนี้ หวังตงเสวี่ยนก็ไม่ดื้อดึงอีก
เธอกล่าวขึ้นอย่างเต็มไปด้วยความขอบคุณว่า “เรื่องในวันนี้ ขอบคุณมากจริงๆ ...”
เย่เฉินโบกมือ “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ เธอรั้งอยู่เถอะ ฉันไปก่อน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...