ยิ่งเข้าใกล้อุโมงค์ที่นัดหมายเอาไว้เท่าไหร่ ในใจของหลิวจ้านก็ยิ่งประหม่ามากเท่านั้น
สำหรับเขาแล้ว แพ้หรือชนะมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดตรงหน้านี้
ดังนั้น เขาอธิษฐานในใจไม่หยุดว่า “พระผู้เป็นเจ้า หลิวจ้านคนนี้ไม่เคยขอร้องใครมาก่อน ตอนนี้ขออ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปกปักรักษาให้วันนี้ราบรื่นด้วยเถิด!”
“ถ้าเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ผมจัดการสองแม่ลูกนี้เสร็จ ขอแค่ท่านคุ้มครองผมให้หนีรอดแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น!”
“เวลาหนึ่งชั่วโมง ก็มากพอให้ตระกูลซูเตรียมการให้ผมหนีได้แล้ว!”
“พรุ่งนี้ ผมก็จะกลายเป็นคนใหม่ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศ!”
คิดมาถึงตรงนี้ ลึกในใจของหลิวจ้านก็ตื่นเต้นจนทนไม่ได้
ในเวลานี้ ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูนั่งอยู่บนเบาะหลัง ในใจของสองแม่ลูกเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
ในใจของซูจือหยูประหม่าเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นรถขับเข้าไปในภูเขา หัวใจของเธอก็ยิ่งลนลานแปลกๆ เหมือนจะมีบางอย่างทะแม่งๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่ามันทะแม่งตรงไหน
ตู้ไห่ชิงสังเกตได้ว่าซูจือหยูกำลังไม่สบายใจ เพื่อไม่ให้ลูกสาวตื่นตระหนกมากเกินไป ตู้ไห่ชิงจึงจับมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พร้อมทั้งส่งสายตาให้กำลังใจเธอเป็นระยะ เพื่อให้เธอผ่อนคลายได้มากที่สุด
แต่ซูจือหยูกลับไม่สามารถผ่อนคลายได้ง่ายๆ เธออดเอ่ยปากถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “นายจะพาพวกฉันไปไหนกันแน่?”
หลิวจ้านตอบกลับเสียงเย็น โดยไม่ได้หันหน้ากลับมา “แกไม่ต้องสนหรอกว่าจะไปที่ไหน นั่ง
นิ่งๆอยู่บนรถก็พอแล้ว!”
ซูจือหยูจี้ถามต่อว่า “แล้วนายจะปล่อยพวกฉันไปเมื่อไหร่?”
รายละเอียดตรงส่วนนี้ ทำให้เธอรู้สึกเครียดขึ้นมาในทันที
“นักโทษหนีคดีที่แหกคุกออกมา ทั้งๆที่กำลังถูกล้อมจับ ทำไมยังมีกะจิตกะใจคุยโทรศัพท์ ส่งข้อความหาคนอื่น แถมยังคุยนานด้วย”
“ถ้าคนที่โทรคุยและส่งข้อความเป็นคนในครอบครัวของเขา แบบนั้นก็ยิ่งอธิบายยาก เพราะในสถานการณ์แบบนี้คนปกติมักจะใช้วิธีที่เร็วที่สุดบอกคนในครอบครัวว่าตัวเองกำลังยุ่ง จากนั้นก็จะรีบตัดสายทิ้ง ไม่มีทางคุยกันนานๆแบบนี้”
“เพราะว่า ในเมื่อเขามีโทรศัพท์ ก็สามารถติดต่อกับคนในครอบครัวได้ทุกเมื่อทุกเวลา ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็ไม่น่ามีความจำเป็นต้องโทรคุยกับครอบครัวในสถานการณ์สำคัญอย่างนี้ อย่างนั้นคงเสียสมาธิ ส่งผลต่อเรื่องที่กำลังกระทำแน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยกบชีวิตของเขาด้วยแล้ว”
“เหมือนอย่างตอนที่หมอกำลังผ่าตัดให้คนไข้ เขาว่ากันว่าห้ามพกโทรศัพท์เข้าไปเพื่อโทรหาหรือส่งข้อความให้คนในครอบครัวเด็ดขาด เพราะมันถือเป็นการรบกวนการทำงาน หากเสียสมาธิไปแค่นิดเดียวผลที่ตามมาอาจจะหนักหนาสาหัสก็ได้”
“ถ้าหลิวจ้านเพิ่งเดินทางสายอาชญากรรม ประสบการณ์ยังไม่มากก็พอจะเข้าใจได้ แต่เขาคือนักโทษหนีคดีที่แหกคุก และมีไหวพริบต่อเรื่องต่างๆเป็นอย่างดี คนแบบนี้ ไม่น่าจะทำพลาดแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆหรอก”
“ดังนั้น ไม่ว่ายังไงคนที่คุยโทรศัพท์และส่งข้อความหาเขา ไม่มีทางใช่คนในครอบครัวของเขาแน่นอน เรื่องที่คนในสายกับเขาคุยกัน ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากแน่ๆ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...