“พูดไม่น่าฟังหน่อย ถ้าหากตระกูลเย่มีความสามารถนี้ งั้นพวกเขาก็สามารถที่จะลักพาตัวฉันไปได้อย่างง่ายดายตั้งนานแล้ว หรือว่าลอบสังหารฉันในบ้าน แล้วจะถูกตระกูลซูของพวกเรากดหัวได้อย่างไร?”
“นั่นก็ใช่อยู่…”พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากถามว่าในทันที: “คุณท่าน งั้นคุณว่า ตระกูลเย่คบหาสมาคมกับยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ในโลกอย่างกะทันหันหรือเปล่า?”
“ก็เป็นไปไม่ได้…”ซูเฉิงเฟิงส่ายหน้า และเอ่ยปากพูด: “แต่ไหนแต่ไรตระกูลเย่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับยอดฝีมือศิลปะเท่าพวกเราขนาดนั้น ในสายตาของไอ้แก่อย่างเย่โจงฉวนมีเพียงหาเงิน จะเสียเงินมากมายมาเลี้ยงดูยอดฝีมือศิลปะจำนวนมากมาย เรื่องแบบนี้ก็ไม่ค่อยน่าสนใจด้วยซ้ำ ดังนั้นคนแบบนี้จะขอความช่วยเหลือจากยอดฝีมืออย่างแท้จริงได้อย่างไร?”
จากนั้น ซูเฉิงเฟิงพูดสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า: “ตอนนี้ความเป็นไปได้ที่ฉันสามารถที่จะคิดได้ มีสามอย่าง”
พ่อบ้านรีบถามว่า: “คุณท่าน สามอย่างอะไรครับ?”
ซูเฉิงเฟิงเอ่ยปากพูดว่า: “ความเป็นไปได้อย่างแรก คือตระกูลเหอต่อต้านฉันอยู่ลับหลัง!”
“ตระกูลเหอ?!”พ่อบ้านรีบถามว่า: “คุณกำลังพูดถึงบ้านแม่ของรั่วหลีเหรอ?”
“ใช่!”ซูเฉิงเฟิงกัดฟันพูด: “ตั้งแต่ที่ซูรั่วหลีเกิดเรื่อง ตระกูลถอนกำลังยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ในตระกูลซูของพวกเราออกไป แต่ว่าไม่เคยมาขอคำอธิบายกับฉัน เหตุผลที่ไม่ขอคำอธิบายกับฉัน มีความเป็นไปได้สูงที่จะวางแผนแอบแก้แค้นฉัน”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเหอเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ ยอดฝีมือในตระกูลรวมตัวกันมากมาย ไม่แน่พวกเขาอาจจะทำการอยู่ลับหลัง”
พ่อบ้านก็ถามอีกว่า: “คุณท่าน งั้นความเป็นไปได้อีกสองอย่างล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน