ต่อมา เขากับอู๋ซิน เดินตามซูอานสุ้นมาถึงห้องจัดเลี้ยงในคฤหาสน์
ตอนนี้ในห้องจัดเลี้ยงมี ซูเฉิงเฟิง ซูโสว่เต้าและซูจือเฟย ทายาททั้งสามรุ่น ทั้งสามกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
เมื่อเห็นอู๋ตงไห่กับลูกชายเข้ามา ซูเฉิงเฟิงเป็นฝ่ายลุกขึ้น เขายิ้มและพูดว่า “คุณอู๋ เคยได้ยินแต่ชื่อเสียง วันนี้ได้เจอกันสักที!”
จู่ๆ อู๋ตงไห่พูดเหมือนได้รับความโปรดปราน “คุณท่านซูเกรงใจกันเกินไปแล้ว ให้เทียบกับคุณ กระผมเป็นแค่พ่อค้าที่ทำธุรกิจเล็กๆ เท่านั้น คงไม่ได้โดดเด่น......”
ซูเฉิงเฟิงโบกมือไปมา เขายิ้มและพูดว่า “พูดอะไรกันครับ ชื่อเสียงของตระกูลอู๋ คือตระกูลอันดับหนึ่งในซูหาง ขนาดที่เจียงหนานก็เป็นเช่นนี้ ไม่เห็นต้องถ่อมตัวเลยครับ”
พูดจบ เขาจึงรีบพูดว่า “มาครับคุณอู๋ ผมขอแนะนำสักหน่อย นี่ซูโสว่เต้า ลูกชายผม ส่วนอีกคนชื่อซูจือเฟย หลานชายผม”
อู๋ตงไห่รู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาคิดในใจว่า “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซูโสว่เต้าจะมาซูหาง ช่วงก่อนหน้านี้ ไอ้หมอนี่หนีไปออสเตรเลีย เพราะมีข่าวฉาวโฉ่ไม่ใช่เหรอ อีกอย่างซูเฉิงเฟิงวางแผนฆ่าภรรยากับลูกสาวของซูโสว่เต้า ทำไมไอ้หมอนี่ยังดูเคารพซูเฉิงเฟิง อย่าบอกนะว่าไม่ต้องแก้แค้นให้ลูกกับภรรยา”
เมื่อซูโสว่เต้าเห็นอู๋ตงไห่ เขาอึ้งไป จากนั้นก็พอเดาความคิดในใจของอู๋ตงไห่ได้ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กน้อย
ดังนั้น เขาจึงชิงยื่นมือออกมาก่อน จากนั้นจึงพูดว่า “สวัสดีครับประธานอู๋ ผมซูโสว่เต้า ยินดีที่ได้พบครับ”
อู๋ตงไห่หลุดออกจากภวังค์ เขารีบทำท่าคารวะ “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณซู! กระผมชื่ออู๋ตงไห่ นี่อู๋ซิน ลูกชายผมครับ!”
ซูเฉิงเฟิงพูดว่า “รีบมานั่งเถอะครับคุณอู๋ เรากินไปคุยไปดีกว่า”
อู๋ตงไห่รีบตอบรับทันที
ทั้งห้าคนนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ซูเฉิงเฟิงเป็นฝ่ายยกแก้วเหล้าขึ้นมา และดื่มคารวะอู๋ตงไห่ หลังจากดื่มกันไปพอสมควร เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณอู๋ ผมมาซูหางครั้งนี้ ถือว่ามาถึงถิ่นของคุณ ดังนั้นต่อไปขอฝากเนื้อฝากตัวกับคุณด้วยนะครับ”
อู๋ตงไห่พูดอย่างกังวลเล็กน้อย “คุณท่านซูเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ คุณมาที่ซูหาง อุตส่าห์คิดถึงคนอย่างอู๋ตงไห่ ถือเป็นเกียรติกับผมมากแล้วครับ ต่อไปถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรที่ซูหาง รีบบอกผมได้เลยครับ”
ซูเฉิงเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณอู๋พูดเช่นนี้ งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ แต่คุณอู๋สบายใจได้ ถ้าคุณมีอะไรให้คระกูลซูช่วย ก็รีบบอกได้เลยนะครับ”
เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินเขาพูดถึงอู๋ฉี จึงพยักหน้าเบาๆ และพูดอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษครับคุณอู๋ ผมรู้ว่าบางเรื่องไม่ควรพูดที่นี่”
อู๋ตงไห่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ จึงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน และพูดว่า “คุณท่านซู ถ้าคุณสงสัยอะไร ถามมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้”
ซูเฉิงเฟิงพยักหน้า จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “คุณอู๋ อันที่จริง ผมได้ยินเรื่องลูกชายคนเล็กของคุณมาแล้ว ที่ผมอยากถาม คุณได้สืบหรือเปล่า เพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้น กับลูกชายคนเล็กของคุณ”
“เพราะอะไรงั้นเหรอ” อู๋ตงไห่แอบด่าในใจ “ก็เพราะไอ้เลวเย่เฉินไงล่ะ! เขายอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าฉันแล้ว แต่เพราะฉันหาเรื่องเขาไม่ได้ ไม่กล้าทำอะไรเขา...”
แต่ทว่าอู๋ตงไห่ไม่กล้าพูดความในใจออกมา
ดังนั้น เขาจึงจงใจพูดคลุมเครือ “เรื่องนี้...อันที่จริง หลังจากเกิดเรื่องกับเสี่ยวฉี ผมกับเสี่ยวซินรีบไปเมืองจินหลิงทันที พวกเราอยากสืบเหมือนกัน เหตุผลอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับเสี่ยวฉี แต่ผมสืบพักใหญ่ ก็ไม่ได้เบาะแสสำคัญอะไรสักอย่าง”
ซูเฉิงเฟิงดูผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นจึงถามต่อ “คุณอู๋ แล้วคุณคิดว่าเรื่องลูกชายคนเล็กของคุณ เป็นเพราะเหตุสุดวิสัย หรือฝีมือของใครกันแน่”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...