ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 2451

“ตระกูลอิโตะงั้นเหรอ”

เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินสี่คำนี้ เขารีบสบถออกมาทันที “ให้ตายเถอะ ไอ้สวะนางาฮิโกะ อิโตะ ไม่ได้เรื่องสักนิด แรกเริ่มที่เราจะเลือกระหว่างตระกูลทากาฮาชิ กับตระกูลของเขา เขาเหมือนสุนัขคอยเลียแข้งเลียขาเราทั้งวัน ตอนนี้ตระกูลทากาฮาชิกับตระกูลมัตสีโมโตะย่อยยับไปแล้ว เขากลับแข็งแกร่งขึ้นมา มีอย่างที่ไหนกัน!”

การขนส่งระหว่างประเทศ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ การขนส่งสินค้าล็อตใหญ่ ถ้าขนส่งผ่านบริเวณยุโรปอเมริกา ค่าขนส่งล็อตหนึ่งประมาณ 2-3 หมื่น ถ้าขนส่งหนึ่งรอบ อย่างน้อยต้องใช้เงินค่าขนส่งหลายสิบล้าน

ตระกูลซูมีกองเรือขนส่งขนาดใหญ่ในประเทศ เมื่อเรือพวกนี้ทำงาน จะทำกำไรมหาศาล เป็นรายได้หลักและแหล่งรายได้ที่สำคัญที่สุดของตระกูลซู

แต่ตอนนี้โดนยกเลิกใบรับรอง เรือพวกนี้ไม่ได้รับการอนุมัติเส้นทาง

เมื่อไม่ได้รับการอนุมัติเส้นทาง เรือพวกนี้ทำได้เพียงจอดไว้ที่ท่าเรือ ไม่เพียงแต่จะทำเงินไม่ได้ หนำซ้ำยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการซ่อมบำรุงทุกวัน

นอกจากนี้ ทีมงานขนส่งและสนับสนุนของบริษัทขนส่งทั้งบริษัท ถึงจะไม่มีอะไรทำ แต่ตระกูลซูก็ไม่กล้าปลดพนักงาน ทำได้เพียงจ่ายเงินค่าจ้างต่อไปเท่านั้น

ดังนั้น ซูเฉิงเฟิงกลุ้มใจกับเรื่องนี้มาก เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เฮ้อ ความผิดฉันเอง เรื่องครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงมาก ไม่รู้จะผ่านพ้นไปได้เมื่อไร ถ้าไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเราคงไม่มีโอกาสได้ใบรับรองกลับคืนมา!”

ซูโสว่เต้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดว่า “พ่อ ให้ผมไปญี่ปุ่นอีกครั้งไหม ไปคุยกับนางาฮิโกะ อิโตะอีกครั้ง! ถ้าเขายอมร่วมมือกับเรา เราค่อยจัดตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้า จากนั้นจึงจดทะเบียนบริษัทใหม่ที่ญี่ปุ่นกับนางาฮิโกะ อิโตะ และเอาใบรับรองที่ญี่ปุ่น ย้ายเรือที่ถูกระงับของเรา มาอยู่ภายใต้ชื่อของบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนนี้ได้”

ซูเฉิงเฟิงพยักหน้า เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “เป็นวิธีที่ดี แต่ไม่รู้นางาฮิโกะ อิโตะ จะมีท่าทีอย่างไร ไอ้หมอนี่คงคิดว่าตอนนี้ตระกูลอิโตะ ได้รับเงื่อนไขสุดพิเศษมากมาย ไม่จำเป็นต้องยอมร่วมมือกับเรา”

ซูโสว่เต้าพูดว่า “ฝั่งตระกูลอิโตะ ระยะนี้อิโตะ นานาโกะ ลูกสาวของนางาฮิโกะ อิโตะเป็นหัวเรือใหญ่ ถึงผู้หญิงคนนี้ยังอายุน้อย แต่เธอทำอะไรสุดขีด ภายในระยะเวลาสั้นๆ เธอรวบรวมทรัพยากรการขนส่งทั้งญี่ปุ่น กำลังของเธอพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว”

ซูเฉิงเฟิงขมวดคิ้ว “อิโตะ นานาโกะ คงเป็นลูกสาวคนเดียวของนางาฮิโกะ อิโตะสินะ”

“ใช่ครับ” ซูโสว่เต้าพูด “ตอนนี้เธอเป็นทั้งผู้สืบทอดตระกูลอิโตะ และเป็นหัวเรือใหญ่ด้วย”

ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจเหมือนกำลังคิดอะไร “นางาฮิโกะ อิโตะ รวมไปถึงกู้เย้นจง ทำไมถึงเกิดลูกสาวมาเพียงคนเดียวกันนะ ต่อไปคงต้องยกให้คนอื่นฟรีๆ สินะ”

ซูโสว่เต้ายักไหล่ “ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ อีกอย่างธุรกิจใหญ่ๆ ที่มีลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคน”

ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ “เฮ้อ! ถ้ามองเช่นนี้ มูลค่าของอิโตะ นานาโกะสูงกว่ากู้ชิวอี๋มาก!”

พูดพลาง เขาอดคิดแผนขึ้นมาไม่ได้ “แกดูสิ ตอนนี้ตระกูลอิโตะได้รับเงื่อนไขพิเศษมากมาย มีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ตระกูลอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น แถมยังทิ้งห่างจากอันดับ 2 และ 3 จนไม่เห็นฝุ่น ถ้าเทียบกัน ตระกูลกู้จึงไม่น่าสนใจเท่าไร อีกทั้งตอนนี้กู้ชิวอี๋ไม่ได้รับมือต่อจากตระกูลอิโตะ อำนาจในมือต่างจากอิโตะ นานาโกะไม่น้อย”

“ใช่ครับ” ซูโสว่เต้าพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นจึงพูดว่า “อิโตะ นานาโกะ มีฉายาว่ายามาโตะนาเดชิโกะ ซึ่งแปลว่าสิ่งที่ดีเลิศของความงามอันบริสุทธิ์ของผู้หญิง ตอนนี้สื่อญี่ปุ่นเรียกเธอว่า ‘มหาเศรษฐีญี่ปุ่นในอนาคต’ ผู้ชายที่อยากแต่งกับเธอคงมีมากมายมหาศาล!”

ซูเฉิงเฟิงถามลองเชิง “เฮ้อ แกว่า จือเฟยควรจะลองดูไหม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน