เมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่าตนเองไม่เคยไปสหรัฐอเมริกามาก่อน เซียวฉางควนก็รู้สึกเกลียดหม่าหลันอย่างไม่รู้ตัว
เขานั่งอยู่ตำแหน่งข้างคนขับ แล้วสบถด่าสารพัดว่า“ทั้งชีวิตของฉันถูกหม่าหลันผู้หญิงบ้าคนนี้ทำพังหมด ถ้าไม่เป็นเพราะเธอ ตอนนี้ฉันคงเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่อเมริกาไปแล้ว ดีไม่ดีฉันอาจจะกำลังเป็นศาสตราจารย์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์อะไรนั่น ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในอเมริกาแล้วก็ได้!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็พูดบ่นอย่างโกรธเคือง“สรุปแล้วไง!สรุปแล้วฉันพึ่งเรียนจบจากมหาลัย ก็ถูกหม่าหลันที่เป็นถังขยะใบหนึ่งขังไว้ จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถหลุดพ้น”
เย่เฉินพูดปลอบอย่างอดไม่ได้“เอาล่ะครับคุณพ่อ บางเรื่องคุณพ่อก็ไม่สามารถนึกถึงในแง่ดีอย่างเดียวนะครับ ดูสิตอนนี้ถึงจะแต่งงานกันไปแล้วไม่ค่อยมีความสุข แต่อย่างน้อยสุขภาพร่างหายยังแข็งแรง คุณพ่อลองคิดในมุมกลับกันดูนะครับ ถ้าโชคชะตากำหนดให้คุณพ่อพบเจอกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อเมริกา หรือตายในเหตุการณ์ปล้นชิงที่อเมริกา คุณแม่ขังพ่ออยู่ในประเทศ นั่นก็เท่ากับว่าเปลี่ยนเป็นคนช่วยชีวิตคุณพ่อไว้นะครับ”
เซียงฉางควนพูดด้วยสีหน้าหดหู่“นายอย่ามาหลอกฉันให้ยากเลย ตอนที่เรายังเป็นเด็กการศึกษาที่เราได้รับคือวัตถุนิยมและทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ ไม่เชื่อในโชคชะตา ตอนนั้นเราเคยร้องเพลงเพลงหนึ่งในการปฏิวัติโซเวียต‘ไม่เคยมีผู้ช่วยให้รอด ไม่ต้องหวังพึ่งพิงเทพยดาใดๆทั้งสิ้น’ ทั้งชีวิตของฉันต้องพังอยู่ในมือของหม่าหลัน!”
เย่เฉินยิ้มอย่างทำอะไรไม่ได้ แล้วพูดขึ้นมาว่า“พ่อครับ งั้นเราพูดถึงเฮ่อหย่วนเจียงคนนั้นกันดีไหมครับ”
เซียวฉางควนเอามือกอดอก แล้วถามอย่างโกรธเคือง“เขามีอะไรดีให้พูดถึง?แค่การศึกษาสูงหน่อย ไม่มีอะไรน่าชื่นชมสักหน่อย?อีกอย่างก็คือ หน้าตาหล่อหน่อย รูปร่างดีนิดหนึ่ง ตัวสูงหน่อย แล้วดูหนุ่มกว่าฉันนิดหน่อยเอง นอกจากสิ่งนี้แล้ว เขามีอะไรที่ดีกว่าฉันกัน?”
เย่เฉินพูดอย่างอึดอัดใจ“นี่มันคือข้อดีภายนอกทั้งหมดเลยไม่ใช่หรอครับ?”
เซียวฉางควนนวดคลึงขมับไปมา“เห้อ……ปวดหัวจริงๆเลย นี่เย่เฉิน นายว่าเขามีลูกมีเมียรึยัง?”
เย่เฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจังไปว่า“ออกมาวิ่งดึกๆดื่นๆขนาดนี้ ผมคิดว่าเขาน่าจะยังไม่มีเมีย แต่เขาอายุตั้ง55ปีแล้ว ผมคิดว่าต้องมีลูกแล้วแน่ๆ ถ้าวิเคราะห์อย่างนี้ น่าจะเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน แต่จากที่เห็นน่าจะอยู่ในสถานภาพโสดครับ”
“จบกัน!”เซียวฉางควนพูดอย่างเศร้าสร้อย“ฉันเห็นเขามองคุณน้าหานของนายสายตาดูผิดปกติ ไอ้หมอนี่ต้องชอบคุณน้าหานของนายแน่ๆ อีกทั้งพวกเขายังโสดด้วยกันทั้งคู่ ยังเป็นเพื่อนร่วมงานกันในมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุอีก แล้วยังเคยใช้ชีวิตที่อเมริกามานานหลายปีกันทั้งคู่ แล้วยังชอบออกกำลังกายเหมือนกันอีก ถ้าวิเคราะห์อย่างนี้ พวกเขาสองคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้วน่ะสิ!”
พูดจบ เซียวฉางควนก็บ่นออกมาว่า“นายว่า เขาเป็นถึงศาสตราจารย์ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ดั้นด้นมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า?”
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังอยู่ใกล้กับซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเป็นฐานอุตสาหกรรมไฮเทคที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา
ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตของซิลิคอนแวลลีย์ ต่างศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดก่อน หลังจากที่เรียนจบค่อยไปเริ่มต้นทำธุรกิจที่ซิลิคอนแวลลีย์
ผู้ประกอบการรุ่นแรกในซิลิคอนแวลลีย์ส่วนใหญ่ ที่สำเร็จการศึกษาจากสแตนฟอร์ดในช่วงต้นทศวรรษ90 มีคนส่วนมากต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นแม่ของเย่เฉิน
ตอนที่เย่เฉินยังเด็ก มักจะฟังคุณแม่พูดถึงจุดเด่นของมหาวิทยาลัยต่างๆในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะสแตนฟอร์ด และมักได้ยินเธอพูดถึงบ่อยๆ
เย่เฉินจำได้ว่าตอนที่ตนเองอายุห้าหกขวบ เดินทางตามคุณแม่ไปเยี่ยมญาติที่สหรัฐอเมริกา เธอยังเคยพาตนเองไปเยี่ยมชมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...