เช้าวันรุ่งขึ้น
รถไฟความเร็วสูงขบวนเช้าที่สุดออกเดินทางจากซูหาง ค่อยๆจอดที่ชานชาลาของจินหลิง
ภายในขบวนที่นั่งธรรมดา มีคนแก่และหลานคนหนึ่งเดินออกมา ทั้งสองคนคือปรมาจารย์ฮวงจุ้ยไหมเฉิงซินที่มาจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงไมค์ที่เป็นเหลนของเขา
ไมค์ลงจากรถ ด้านหนึ่งก็ยื่นมือไปพยุงไหม้เฉิงซิน อีกด้านก็คอยถามว่า“คุณทวดครับ เรามาที่จินหลิงครั้งนี้ ได้ทำนายล่วงหน้ารึยังครับ ว่าครั้งนี้ดีหรือไม่ดี?”
ไมค์เข้าใจทวดของตัวเองเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้เขาแสวงหาความมั่นคง ดังนั้นจึงติดเป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง ขอแค่ออกเดินทางไกล เขามักจะทำนายล่วงหน้าว่าดีหรือร้ายก่อนเสมอ
ไหม้เฉิงซินพูดอย่างไตร่ตรอง“วันนี้ยามอิ๋นสี่สิบห้านาที ฉันทำนายแล้วล่ะ แต่ตำราปากว้าครั้งนี้วุ่นวายผิดปกติ ดีร้ายอย่างละครึ่ง”
“อย่างละครึ่งหรอครับ?”ไมค์ที่ได้ยินผลแบบนี้ ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ตั้งแต่เด็กเขาได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่เป็นประจำ จึงศึกษาเรื่องฮวงจุ้ย อันที่จริงเรื่องฮวงจุ้ยนั้น สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือการทำนายได้ผลดีร้ายอย่างละครึ่ง เพราะผลแบบนี้แทบจะเท่ากับไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย ไม่มีนัยสำคัญอะไรให้วิเคราะห์เลย
เหตุผลที่เรื่องฮวงจุ้ยได้รับความนิยม เป็นเพราะมันสามารถทำนายทิศทางและจุดสำคัญทุกเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้
เพราะทุกอย่างบนโลกใบนี้ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ดีหรือร้ายอย่างละครึ่ง ระหว่างดีหรือร้าย ต้องมีระยะห่างกันอยู่แล้ว เพียงแต่มีบางอย่างที่มีความแตกต่างกันมาก บางอย่างมีความแตกต่างกันหน่อยเท่านั้นเอง
ยกตัวอย่างเช่นนักธุรกิจคนหนึ่งต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า หลังจากที่ตรวจสอบดูพื้นที่แล้วผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยที่มีความสามารถอย่างแท้จริง จะช่วยเขาทำนายระดับความดีหรือไม่ดีของโปรเจกต์ได้
หากทำนายได้ว่าฮวงจุ้ยเป็นมงคล มีแนวโน้มประสบความสำเร็จสูง ก็จะสามารถทำให้เถ้าแก่คนนี้เดินทางทำต่อไปอย่างวางใจ
ถ้าหากทำนายได้ว่าฮวงจุ้ยไม่เป็นมงคล มีแนวโน้มประสบความสำเร็จต่ำ นั่นก็สามารถทำให้เขากระทำการอย่างระมัดระวัง กระทั่งทำให้เขาหลีกเลี่ยงได้
แต่ว่า คนอื่นจ้างคุณมาเพื่อถามเรื่องดีหรือร้าย คุณก็ไม่สามารถบอกเขาว่าดีร้ายอย่างละครึ่งได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนอื่นจ้างคุณมายังมีความหมายอะไรล่ะ?
“อืม”ไหม้เฉิงซินพยักหน้าเล็กน้อย
เขาเข้าใจเหลนชายคนนี้ของตัวเองดี ถึงแม้เขาจะเกิดที่สหรัฐอเมริกา แต่เขาก็ได้รับการศึกษาด้านภาษาจีนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เกิดเป็นคนต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ห้ามก่อเวรก่อกรรม
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น ทวดเหลนทั้งสองคนเดินออกจากรถไฟมาแล้ว ไมค์จึงเอ่ยปากถามว่า“คุณทวดครับ เราจะไปไหนกันครับ?”
ไหม้เฉิงซินพูดอย่างมุ่งมั่นว่า“ไปมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง!ลูกชายของอู๋ตงไห่เกิดเรื่องขึ้นที่นั่น เราจะเริ่มหาเบาะแสจากที่นั่น”
“ครับ!”ไมค์รีบพูดขึ้นมาว่า“งั้นรอก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปตรงข้ามเช่ารถ”
“ไม่ต้องหรอก”ไหม้เฉิงซินโบกมือไปมา ก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าว โบกรถโดยสารคันหนึ่ง แล้วเอ่ยปากถามว่า“น้องชาย เหมารถของคุณหนึ่งวันเท่าไรหรอครับ?”
คนขับรถโดยสารครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ต้องดูว่าคุณจะไปไหน วิ่งระยะทางเท่าไร ผมถึงจะสามารถคิดค่าน้ำมันและค่าเดินทางได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...