เมื่อคิดได้เช่นนั้น เย่เฉินถอนหายใจอย่างจนปัญญา “ในเมื่อจิตใจแกอ่อนแอขนาดนี้ งั้นฉันจะสะกดจิตแกแล้วกัน”
พูดจบ เขาใช้นิ้วสกัดจุดบนหน้าผากอีกฝ่าย แล้วพูดว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หน้าที่เดียวของแกคือ ทำตามคำสั่งของฉันอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เข้าใจหรือยัง”
ตอนนี้ ดวงตาของอีกฝ่ายดูเหม่อลอย ผ่านไปสิบวินาที จึงกลับเป็นปกติ เขาพูดกับเย่เฉินอย่างนอบน้อม “เข้าใจแล้วครับ!”
ตอนนี้เขาไม่มีท่าทีสติแตกเหมือนเมื่อครู่ เขาไม่พูดติดอ่าง และขาไม่สั่นอีกแล้ว
เย่เฉินถึงกับโล่งใจ เขาชี้ไปยังคนที่นอนอยู่บนพื้น แล้วพูดว่า “ถอดกางเกงของเขา แล้วพาเขาไปซ่อน แค่ไม่โดนใครจับได้ในคืนนี้ก็โอเคแล้ว”
“ครับ!”
อีกฝ่ายตอบรับ และรีบเข้าไปถอดกางเกงคนนั้น จากนั้นจึงแบกเขาขึ้นมา และเอาไปแอบไว้ในบ้านเก่าๆ ที่ถูกทิ้งร้างด้านข้าง
เย่เฉินสวมชุดของคนนั้น คนที่โดนเขาสะกดจิต วิ่งกลับมา และพูดกับเขาอย่างนอบน้อม “จัดการตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้วครับ!”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วถามเขาว่า “แกชื่ออะไร”
คนนั้นรีบพูดว่า “ผมชื่อไฟซาล”
เย่เฉินถามเขาว่า “ไฟซาล แกมีที่ปกปิดใบหน้าไหม”
ไฟซาลรีบล้วงเอาถุงพลาสติกในกระเป๋า ซึ่งบรรจุที่ปกปิดใบหน้าสีดำเอาไว้ จากนั้นจึงพูดว่า “อันนี้เพิ่งส่งมาเมื่อสองวันก่อน ยังไม่ได้ใช้ครับ”
เย่เฉินพยักหน้า เขารับมา และเปิดออก เป็นที่ปกปิดใบหน้า ที่คลุมทั้งศีรษะ ไม่เพียงแค่คลุมศีรษะ แต่ยังปกปิดใบหน้าจนเกือบหมด เหลือเพียงช่องเล็กๆ บริเวณดวงตาเท่านั้น
เย่เฉินถามไฟซาล “ถ้าฉันใส่อันนี้ จะดูแตกต่างจากคนอื่นเกินไปหรือเปล่า”
ไฟซาลรีบตอบว่า “พวกเขาเป็นทีมเฮลิคอปเตอร์ ทีมใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานซ่อมบำรุง วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม การมองเห็นไม่ค่อยดี การสังเกตด้วยสายตาของเราจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ ดังนั้นอีกเดี๋ยว เราจะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปลาดตระเวนตามลำดับ เพื่อติดตามดูว่ามีกองกำลังของรัฐบาล แอบเข้ามาใกล้เราหรือไม่”
เย่เฉินพยักหน้า เหมือนเขานึกอะไรได้ จึงถามว่า “ใช่สิ แกขับเฮลิคอปเตอร์เป็นหรือเปล่า”
ไฟซาลส่ายหน้า “ผมขับไม่เป็น...ผมเป็นทีมยานเกราะ ทีมใหญ่ ขับรถถังกับยานรบทหารราบได้ครับ”
เย่เฉินพยักหน้า สำหรับเรื่องที่จะพาเฮ่อจือชิวหนีออกมา หลังจากช่วยเธอได้ ตอนนี้เย่เฉินยังไม่มีวิธีที่แน่ชัด
ถ้าช่วยเฮ่อจือชิวเพียงคนเดียว ยังพอพูดง่าย เขาสามารถแบกเธอหนีออกไปอย่างเงียบๆ แล้วค่อยเดินตามทางภูเขาสิบกว่ากิโลเมตร ไปยังสถานที่ที่นัดกับเฉินจื๋อข่ายเอาไว้ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ถ้าต้องช่วยเฮ่อจือชิว กับเพื่อนอีกเจ็ดคนของเธอ ใช้กำลังของเขาเพียงคนเดียวคงยาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาทิ้งปัญหาเอาไว้ก่อน และพูดในใจว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ ไว้เจอคนก่อน แล้วค่อยว่ากัน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...