เย่เฉินขับรถมายังโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของภายในพร้อมกับกู้ชิวอี๋เพื่อมายังห้องที่ทีมของเธอจองไว้ล่วงหน้าให้
เมื่อเข้ามาในห้อง กู้ชิวอี๋ก็วิ่งบึ่งไปยังโซฟา แล้วนอนพิงเอนตัวลงอย่างเหนื่อยล้า ปากพลางสบถออกมา: “ให้ตายสิแม่เจ้า ตื่นตอนเช้าเพื่อขึ้นเครื่องนี่มันเหนื่อยเกินไปแล้ว”
เย่เฉินยิ้มเอ่ยว่า: “ถ้าเธอเหนื่อยก็พักสักครู่เถอะ พักเสร็จแล้วพวกเราค่อยไปกินข้าว”
กู้ชิวอี๋รีบถาม: “พี่เย่เฉิน พี่ตั้งใจจะพาฉันไปกินข้าวที่ไหนเหรอ?”
เย่เฉินเอ่ยตอบ: “แล้วแต่เธอเลย ถ้าเธอไม่รังเกียจ พวกเราแก้ขัดที่ห้องอาหารของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงก็ได้นะ แต่ถ้าเธอรังเกียจ พวกเราก็ไปเทียนเซียงฝู่ของหงห้าก็ได้”
กู้ชิวอี๋รีบโบกมือพร้อมเอ่ย: “โธ่ ถ้าเป็นเทียนเซียงฝู่ไม่เอาด้วยหรอก อึดอัดเกินไป อาหารมากมายหลากหลายเกินไป ตอนกินก็จะเหนื่อยมาก อีกอย่างตอนบ่ายโมงฉันต้องไปซ้อมที่สนามกีฬาด้วย เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด”
ขณะที่เอ่ย กู้ชิวอี๋ก็เอ่ยถามอย่างออดอ้อน: “พี่เย่เฉินขา ไม่งั้นก็ให้คนแผนกห้องอาหารทำของกินขึ้นมาส่งที่ห้องก็ได้นะคะ พี่ทานกับฉันในห้องนะคะ”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยว่า: “ถ้าเธอขี้เกียจขยับตัวละก็ งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกให้เหล่าเฉินจัดการให้คนส่งมาละกันนะ”
กู้ชิวอี๋รีบเอ่ยขึ้น: “งั้นก็เยี่ยมไปเลยค่ะ!”
เย่เฉินโทรศัพท์หาเฉินจื๋อข่าย บอกให้เขาจัดการให้แผนกห้องอาหารทำกับข้าวที่ถนัดมา แล้วเอามาส่งที่ห้องกู้ชิวอี๋เวลา 11 โมง เฉินจื๋อข่ายรีบไปคุมด้วยที่แผนกห้องอาหารเอง กลัวว่าจะล่าช้า
เมื่อ 10 โมงครึ่ง คณะรถที่ซูจือเฟยเตรียมไว้ก็มารวมตัวกันที่หน้าสนามกีฬาเรียบร้อย เตรียมที่จะไปรับกู้ชิวอี๋ที่สนามบิน
และเพื่อที่จะติดตามเส้นทางการเดินทางของกู้ชิวอี๋ได้อย่างรอบด้าน ซูจือเฟยให้คนไปสอบถามสถานะของเครื่องบินส่วนตัวของกู้ชิวอี๋โดยเฉพาะด้วย เช่นออกจากที่จอดหรือยัง เริ่มออกจากสนามบินแล้วหรือยัง จะเริ่มบินประมาณกี่โมง
ทว่า ในขณะท่ีเขาเตรียมที่จะออกเดินทางไปยังสนามบิน เขาก็ได้รับข่าวสารที่ทางเย้นจิงส่งมา ฝ่ายนั้นบอกเขาว่า เครื่องบินส่วนตัวลำของกู้ชิวอี๋ได้ยกเลิกแผนการบินในวันนี้เมื่อสักครู่
ซูจือเฟยงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง จึงได้โทรศัพท์ไปซักถาม: “คุณบอกว่าเครื่องบินของกู้ชิวอี๋ยกเลิกการบินแล้วงั้นเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เพราะอากาศทางเย้นจิงไม่ดีเหรอ? มีพายุฟ้าผ่าหรือว่าลมกระโชกแรงงั้นเหรอ?”
ฝ่ายนั้นตอบกลับอย่างเรียบง่ายกระชับ: “มีลมพัดผ่านใบหน้าเบาๆ ท้องฟ้าแจ่มใสดี”
เฉินตัวตัวพยักหน้าจริงจัง พร้อมเอ่ยว่า: “คุณชายซู ที่คุณพูดนั้นถูกต้อง ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เธอมาที่จินหลิงเมื่อไรกันแน่จริงๆ เธอก็ไม่ได้ให้ฉันเตรียมรถไปรับที่สนามบินด้วย บอกแค่ว่าบ่ายโมงจะมาที่สนามกีฬา”
ซูจือเฟยยกข้อมือขึ้นมา แล้วมองนาฬิกา Richard Mille รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยว่า: “ตอนนี้ 11 โมงแล้ว ขืนล่าช้าต่อไป เธอไม่มีทางมาถึงสนามกีฬาตรงเวลาแน่นอน”
พูดจบ ซูจือเฟยก็เอ่ยต่อ: “เอาแบบนี้ละกัน เดี๋ยวฉันโทรหาคุณกู้ก่อน”
เฉินตัวตัวเอ่ย: “คุณชายซู ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นฉันไปทำงานต่อก่อนนะ”
“ได้” ซูจือเฟยพยักหน้า ควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็หาเบอร์กู้ชิวอี๋พร้อมต่อสาย
ทว่า ปลายสายแจ้งเตือนว่า: “ขออภัย เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง”
เมื่อเห็นว่ากู้ชิวอี๋ปิดโทรศัพท์ไปแล้ว ซูจือเฟยก็ยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...