ซูจือเฟยไม่คิดไม่ฝันโดยสิ้นเชิง ว่าอยู่ๆ จะมีคนคนหนึ่งโผล่ออกมาจากส่วนลึกห้องทำงานหวังตงเสวี่ยน
อีกทั้ง สิ่งที่เขาสงสัยยิ่งกว่าก็คือ เสียงของคนผู้นี้ ทำไมถึงทำให้คนมีความรู้สึกที่คุ้นเคยราวกับเคยเจอกันมาก่อนได้
ขณะที่เขาได้สติหันหน้าไปมองนั้น ทั้งสมองของเขาก็มีเสียงระเบิดแตกตู้ม เบิกตากว้างทันที และตกอยู่ในความตกตะลึงในทันใด
แน่นอนว่าเขาจำเย่เฉินได้ในแวบแรกที่มอง!
ถึงอย่างไร สิ่งที่เย่เฉินทิ้งไว้ให้เขาที่ประเทศญี่ปุ่นก็ลึกซึ้งเหลือเกิน เขาไม่มีทางลืมใบหน้าของเย่เฉินไปจนตาย
ในเวลานี้ เขาตกตะลึงจนแข็งทื่อ จากนั้น เขาก็พึมพำขึ้นมาอย่างอดไม่ได้: “เอ่อ...คุณ...คุณเองเหรอ?! นี่...นี่มันเป็นไปได้ยังไง!?!”
เย่เฉินเดินตรงเข้ามา เอ่ยถามด้วยความเย้าแหย่: “ทำไม? เราไม่ได้เจอกันนาน เมื่อเจอหน้าฉัน นายถึงขั้นไม่เรียกว่าผู้มีพระคุณแล้วงั้นเหรอ?!”
ซูจือเฟยตกตะลึงกับพลังอันแข็งแกร่งที่อยู่บนตัวเย่เฉินในทันที จากนั้น ภายในหัวของเขาก็ผุดเป็นภาพวันนั้นที่เย่เฉินฆ่านินจาประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากเพียงคนเดียว ตอนอยู่เกียวโตประเทศญี่ปุ่น!
ดังนั้น เนื้อตัวของเขาก็สั่นเทา โค้งลำตัวเคารพทันที พร้อมเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อม: “ผู้...ผู้มีพระคุณ...คุณ...คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?! ตั้งแต่ที่ลากันที่เกียวโตครั้งนั้น ผมกับน้องสาวก็ตามหาคุณอยู่ตลอด ต้องการตอบแทนบุญคุณของคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้ กลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณอยู่ที่นี่ได้...เมื่อกี้ที่ผมเจอหน้าคุณ ผมตกตะลึงเกินไปจริงๆ เลยไม่ได้สนใจเรื่องมารยาท ผู้มีพระคุณได้โปรดอย่าถือสา!”
เย่เฉินยิ้มด้วยความเย็นชา: “ซูจือเฟย นายว่านายเนี่ยนะ ปล่อยเย่นจิงของตัวเองเอาไว้ไม่ไปอยู่ดีๆ ดันแจ้นมาทำอวดดีอยู่ที่จินหลิง อวดดีก็อวดดีไปสิ นายยังดันทุรังแจ้นมาเจอฉันที่ตี้เหากรุ๊ปด้วยตัวเองอีก สุดท้ายฉันออกมาเจอนายตามความต้องการของนายแล้ว ตอนนี้นายกลับถามฉันว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นายว่าหัวสมองของนายเนี่ยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ซูจือเฟยเอ่ยด้วยความตกใจ: “ผู้มีพระคุณ...คุณ...คุณคือประธานของตี้เหากรุ๊ป?!”
เย่เฉินอมยิ้ม: “นี่เป็นเรื่องดีนี่! นายว่ายอดลงทุนแสนล้านนี่ของนาย จะโอนมาได้เมื่อไรเหรอ?”
“หา?” ซูจือเฟยถามตามสัญชาตญาณ: “ผู้มีพระคุณ...คุณ...คุณหมายความว่ายังไง?”
เย่เฉินเอ่ย: “ฉันไม่ได้หมายความว่ายังไง นายอยากร่วมมือลงทุนกับฉันไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อเป็นการลงทุน งั้นแน่นอนว่านายต้องหยิบเงินออกมาก่อนใช่ไหมล่ะ?”
ซูจือเฟยรีบเอ่ย: “เอ่อ...ผู้มีพระคุณ...การลงทุนที่ใหญ่ขนาดนี้ จะต้องทำงานเตรียมล่วงหน้าเยอะมากแน่นอน อีกอย่างการลงทุนครั้งนี้ก็เป็นการสร้างบริษัทร่วมของเราด้วย จากนั้นก็ออกเงินลงทุนของแต่ละฝ่ายมา ตามสัดส่วนและมูลค่าราคาประเมินตามสัญญา...”
เย่เฉินโบกไม้โบกมือ: “ในบริษัทฉัน กฎของการลงทุนก็คือนายโอนเงินใส่บัญชีของฉันก่อน นายมาพร้อมความซื่อสัตย์ไม่ใช่เหรอ? รีบจัดการให้ทางฝ่ายบัญชีของนายโอนเข้าบัญชีตี้เหากรุ๊ปแสนล้านก่อน จากนั้นเราค่อยเจรจาเรื่องร่วมมือต่อไป”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...