เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “บาปของครอบครัวนายหนาขนาดนี้ จะแค่จุดธูปไหว้พระแล้วจะแก้ไขเลยได้อย่างไร?”
ซูจือเฟยเอ่ยถามอย่างมึนงง: “ผู้มีพระคุณ ถ้าอย่างนั้นความหมายของคุณคือ?”
เย่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ในเมื่อเป็นบาปหนา ถ้างั้นก็จะต้องซื่อสัตย์สักหน่อย ต้องฝึกฝนเยอะๆ สักหน่อย ฉันว่านะตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนาย ให้ใช้การเดินสามก้าวแล้วนอนกราบหัวแตะพื้น ตั้งแต่จินหลิงเดินไปจนถึงวัดต้าจาวแห่งหัวเซี่ยที่อยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อแสวงบุญ ใช้หัวใจที่ซื่อสัตย์ของนาย การกระทำที่ซื่อสัตย์และจริงจัง เพื่อมาลดบาปของตระกูลซูนายดีไหมล่ะ”
ขณะที่เอ่ยเสร็จ เย่เฉินก็คำนวณ เอ่ยว่า: “จากจินหลิงไปจนถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ น่าจะประมาณ 4,000 กิโลเมตร นายหมอบกราบหัวแตะพื้น มันก็คงช้าจริงๆ นั่นแหละ ถ้าหนึ่งวันเดิน 12 ชั่วโมง ถ้าเยอะกว่านี้ไม่ว่ากัน เดินสี่กิโลเมตรก็ถือว่าไม่มีปัญหาหรอก เมื่อคำนวณแบบนี้แล้ว ภายในเวลาสามปีก็น่าจะถึงนะ”
“อะไรนะ?!” ซูจือเฟยได้ยินถึงตรงนี้ ก็แทบจะเข่าอ่อน ทรุดลงไปนั่งอยู่ที่พื้นทันที
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าเย่เฉินจะใช้วิธีเช่นนี้ในการลงโทษตน
“เดินหมอบกราบหัวแตะพื้นตั้งแต่จินหลิงจนถึงวัดต้าจาวงั้นเหรอ?! อีกทั้งต้องก้มกราบสามปีถึงจะถึงจุดหมายได้?!”
“นี่มันเป็นการฆ่าคนชัดๆ เลยไม่ใช่เหรอ?”
“ผมเคยได้ยินว่าขงเต๋อหลงแห่งตระกูลขงจากเมืองเย่นจิงในเมื่อก่อนนี้ เขาขี่จักรยานจากเย่นจิงจนถึงจินหลิง นี่ก็ถือเป็นการล้มล้างความรู้ของตนแล้ว ถ้าตัวเองต้องก้มกราบไปจนถึงชายแดนภาคตะวันตกเฉียงใต้ ถ้างั้นก็น่าเวทนากว่าขงเต๋อหลงหลายร้อยหลายพันเท่า ไม่ใช่หรือไง?!”
เย่เฉินมองหน้าซูจือเฟย ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยถาม: “ทำไม? นายไม่ยินยอม? ถ้าไม่ยินยอมงั้นก็อย่าโทษที่ฉันจะไม่ให้โอกาสในไว้ชีวิตนายนะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูจือเฟยก็รีบตอบ โดยที่ไม่คิดเลยสักนิด: “ผมยอม ผมยอม ผมยอมแน่นอน!”
ซูจือเฟยในเวลานี้ ได้คิดวิธีการรับมือในใจเรียบร้อยแล้ว
“รอจนถึงสามทุ่ม นายค่อยออกมาจากห้อง เรียกคนในบ้านนายมารวมตัวกัน จากนั้นค่อยติดต่อปู่นายด้วยวิดีโอคอล บอกพวกเขาว่าหลังจากที่นายครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้ว คิดว่าพ่อของตัวเอง ปู่ล้วนเป็นคนที่มีบาปหนา เพราะฉะนั้นเลยตัดสินใจเริ่มจากพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้า จะใช้วิธีการเดินหมอบกราบหัวแตะพื้น ไปจนถึงวัดต้าจาว เพื่อเป็นการไถ่บาปให้ตระกูลซู ถ้าซูเฉิงเฟิงกล้าห้ามนาย ข่มขู่นาย นายก็บอกไล่โทษของเขาออกมาอย่างละเอียด ด่าทอเขาให้เละ!”
“นอกจากนี้ ก่อนที่นายจะสารภาพทุกอย่างกับคนในครอบครัว ก็ต้องอัดวิดีโอก่อน รอเมื่อบอกกับคนในครอบครัวเสร็จแล้ว ก็รีบโพสต์วิดีโอลงโซเชียล อธิบายการตัดสินใจของนายต่อประชาชนทั่วประเทศอีกครั้ง ถึงเวลานั้น ถ้ามีคนมาขวางนาย นายก็ใช้การตายมาบีบบังคับ”
“แต่ว่า ฉันก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีจิตใจเมตตาหรอกนะ เห็นแก่ที่การศึกษาของนายใช้ไม่ค่อยได้ ฉันอนุญาตให้นายพาคนติดตามไปหลายคน ถึงขั้นว่าพาหมอส่วนตัวไปด้วยได้ ให้พวกขารับประกันความปลอดภัยในชีวิตนายตลอดทาง แต่ว่านายต้องจำไว้ว่า ต้องให้ตัวนายเดินเอง และต้องเดินหมอบกราบหัวแตะพื้นเอง!”
“ตลอดเส้นทางนายสนใจแค่ไถ่บาปอย่างซื่อสัตย์ก็พอแล้ว หลังจากที่ถึงวัดต้าจาวแล้ว นายก็สามารถกลับจินหลิงได้ มาหาฉันที่ตี้เหากรุ๊ป เข้าใจไหม?”
ซูจือเฟยในเวลานี้ ทั้งเนื้อตัวเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด สองดวงตาก็ว่างเปล่าขึ้นเยอะ ทว่าน้ำเสียงกลับมีความแน่วแน่ยิ่ง เขาเอ่ยว่า: “ผู้มีพระคุณวางใจได้ ผมเข้าใจแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...