ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 2922

อันที่จริง เย่เฉินทราบตั้งนานแล้วว่าซูจือเฟยกำลังตามจีบกู้ชิวอี๋

ตามหลักการที่ว่า “ความรักคืออิสระ” เขาไม่อยากที่จะแทรกแซงซูจือเฟยมากมายนัก แม้ว่าเมื่อก่อนเฉินจื๋อข่ายจะเคยแนะนำให้เขาเข้าไปยุ่งด้วย เขาก็ไม่เคยมีความคิดเช่นนี้

เย่เฉินก็รู้สึกว่า ใครก็มีสิทธิ์ชอบคนอื่น และถูกคนอื่นชอบเช่นเดียวกัน

ขอเพียงแค่ชอบอย่างตรงไปตรงมา มีเหตุมีผล ใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปแทรกแซง

ทว่าที่ซูจือเฟยผิดนั้น ก็คือตัวเขาไม่ได้ทำสิ่งนี้ให้ชัดเจน

ก่อนที่เขาจะจีบกู้ชิวอี๋ติด ก็เห็นกู้ชิวอี๋เป็นสิ่งของส่วนตัวตนแล้ว เมื่อเขาพบว่าตนขับรถไปส่งกู้ชิวอี๋ที่สนามกีฬา ความคิดแรกก็คือต้องการตรวจสอบสถานะของตนอย่างแน่วแน่ ชี้เป้ามายังตน กระทั่งว่าต้องการตรวจสอบเลขทะเบียนรถของภรรยาตนเอง นี่ก็ได้ขัดต่อหลักการพื้นฐานของ “ความรักคืออิสระ” แล้ว

ดังนั้น การตัดสินใจนี้ของซูจือเฟย ก็เป็นหัวใจสำคัญท่ีตนตัดสินใจลงโทษเขาให้ได้

และเป็นเพราะเหตุนี้ เย่เฉินจึงได้ทำการสะกดจิตเขา

การสะกดจิตเป็นฟังก์ชันการล้างสมองที่ยิ่งใหญ่มากอย่างหนึ่ง อีกทั้งเย่เฉินก็ใช้ปราณทิพย์เป็นมีเดียของตนเอง การสะกดจิตแบบนี้ไม่มียารักษาได้

เย่เฉินชัดเจนดีมาก ถ้าตนกับซูจือเฟยรับปากกันทางคำพูดอย่างเดียว ถ้าเช่นนั้นหลังจากที่เขาจากที่นี่ไปแล้ว จะต้องกลับคำแน่นอน ถึงขั้นอาจหลบหนีไปไกลแสนไกลด้วย

ต่อให้เขาจะถูกบีบบังคับจนทำอะไรไม่ได้ เดินหมอบกราบหัวแตะพื้นไปจนถึงวัดต้าจาว เช่นนั้นตลอดเส้นทาง มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะคิดทุกวิถีทางในการเล่นตุกติกเพื่อให้รอดพ้นไปได้แน่นอน

อีกทั้งตนก็ไม่มีทางที่จะจับตาดูเขาได้ตลอดเวลา วิธีแก้ไขอย่างเดียว ก็คือสะกดจิตที่อานุภาพรุนแรงกับเขา ทำให้เขาปฏิบัติตามข้อต้องการของตนอย่างเคร่งครัด

หลังจากที่เขาสะกดจิตเรียบร้อย เขาก็ราวกับเป็นอู๋ฉีที่ต้องเพิ่มอาหารทุกๆ หนึ่งชั่วโมง ใครก็ห้ามเขาไม่อยู่ อีกทั้งใครก็ไม่สามารถทำให้เขาล้มเลิกข้อเรียกร้องของตนได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะกำหนดข้อเรียกร้องที่เคร่งครัดให้กับตัวเขาว่าต้อง ก้าวเดินสามเก้า หมอบกราบหัวแตะพื้น เมื่อเดินก้าวเล็กๆ สักพักก็เดินหมอบกราบหัวแตะพื้น ตัวเขาไม่มีทางให้อภัยตัวเองได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน