สิ้นเสียง ก็เห็นซูจือเฟยที่กำลังวิดีโอคอลด้วย จึงรีบเอ่ยขึ้น: “คุณชาย คุณท่านเขาเป็นอะไรไปกันแน่?!”
ซูจือเฟยมองซูเฉิงเฟิงที่สลบหมดสติไป เอ่ยน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าเย็นชาว่า: “เขาเหรอ? เขาทำความชั่วร้ายเอง ไม่สมควรมีชีวิตอยู่!”
ซูอานสุ้นมึนงงไป: “นี่มันอะไรกัน? นี่มันซูจือเฟยคนที่ชอบประจบประแจงตาแก่นั่น วอนขอความเมตตาคนนั้นหรือเปล่า? ทำไมกล้าพูดคำพูดแบบนั้นกับคุณท่านได้?!”
ซูอานสุ้นที่มีจิตใจการปกป้องเจ้านายสูงเกรี้ยวกราดขึ้นมายกใหญ่ ตะคอกต่อว่า: “ซูจือเฟย! นายมันสถานะอะไร ไม่นึกเลยว่าจะกล้าพูดกับคุณท่านแบบนี้! นายคิดจะเป็นกบฏงั้นเหรอ?!”
ซูจือเฟยเอ่ยอย่างเหยียดหยาม: “ถุย! ฉันจะเป็นกบฏของไอ้แก่นี้เนี่ยนะ? ฉัน ซูจือเฟยอับอายที่ต้องอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันกับเขาไปตลอดชีวิต!”
ขณะท่ีเอ่ยจบ ซูจือเฟยก็กดสายวางทันที
ทันใดนั้น ทั้งคฤหาสน์ตระกูลซูทั้งหลังก็ระเบิดลง
ส่วนทางจินหลิง คนคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลตู้ก็สับสนงงงวยโดยสิ้นเชิง
ซูจือหยูมองพี่ชายตนเอง รู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหลรินลง
เมื่อสองวันก่อน เธอเพิ่งจะมั่นใจแล้วว่า อันที่จริงพี่ชายได้เล็งเป้าที่คุณปู่เรียบร้อยแล้ว
แต่เธอคิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง นี่มันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเท่านั้น อยู่ๆ พี่ชายก็ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน ด่าทอคุณปู่ไปจนเละเช่นนี้...
ดังนั้น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามซูจือเฟย: “พี่ วันนี้พี่เป็นอะไรไป?!”
ซูจือเฟยมีสีหน้าที่ราบเรียบ เอ่ยด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า: “ฉันไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่ไม่ชอบการกระทำของเขา!”
ซูจือหยูอึ้งไป ถามอีกว่า: “ถ้างั้นที่พี่บอกว่าเริ่มแต่วันพรุ่งนี้จะก้มกราบหัวแตะพื้นไปจนถึงวัดต้าจาว จริงจังหรือเปล่า? หรือว่าแค่พูดไปเท่านั้น?”
ซูจือเฟยขลึงตาใส่ซูจือหยู เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก: “แน่นอนว่าจริงจังน่ะสิ! ทำไมเธอสงสัยปณิธานของฉัน?! เธอคิดว่าคนอย่างซูจือเฟยจะล้อเล่นในสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์หรือไง?! หรือว่าในความคิดเธอ คนอย่างซูจือเฟยเป็นคนที่ชอบพูดเอาใจมวลชน กลับไปกลับมา พูดอะไรไม่เป็นอย่างนั้นเหรอ?!”
ซูจือหยูอยู่ๆ ก็ถูกพี่ชายด่าทอเข้าอย่างจัง ภายในหัวแทบที่จะมีเครื่องหมายคำถามนับแสนผุดขึ้นมา ภายในใจก็ยิ่งตกตะลึงจนหาที่เปรียบไม่ได้
ดังนั้น ตอนนี้ซูจือเฟยอยู่ๆ ก็มีคุณธรรมระเบิดออกมา ผิดใจกับซูเฉิงเฟิง นี่มันราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างไรอย่างนั้น!
ดังนั้น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยลองเชิง: “จือเฟย แกบอกแม่มาตามความจริง วันนี้แกเป็นอะไรไปกันแน่? ไปเจอเรื่องอะไรหรือว่าเจอเรื่องสะเทือนใจมาจากข้างนอกหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ” ซูจือเฟยเอ่ยราบเรียบ: “ผมก็แค่อยู่ๆ ก็ตระหนักขึ้นมาได้ รับรู้ได้ว่าชีวิตคนเราไม่ควรท่ีจะตกต่ำลงไป! บาปของคนตระกูลซูมันหนามากจริงๆ ในฐานะหลานชายตระกูลซู ผมจะต้องยืนออกมา เพื่อไถ่บาปนี้ให้กับตระกูลซู!”
ตู้ไห่ชิงยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ กลับเอ่ยโน้มน้าวอย่างจริงจัง: “ซูจือเฟย ที่แกสามารถชัดเจนในเรื่องนี้ได้แม่ชื่นใจมากจริงๆ แต่แกก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีที่เคร่งครัดแบบนี้กับตัวเองนะ เดินหมอบกราบหัวแตะพื้นไปจนถึงวัดต้าจาว เป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร ร่างกายของลูกรับไม่ไหวหรอก บวกกับทางนั้นเป็นพื้นที่ราบสูง ร่างกายตอบสนองต่อพื้นที่สูงอย่างรุนแรง อาจปลิดชีวิตลูกไปได้เลยนะ!”
ซูจือเฟยเอ่ย โดยไม่สนใจ: “เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเลย ผมไปไถ่บาป ไม่ได้ไปฆ่าตัวตาย เพราะงั้นผมเลยจะเตรียมคนติดตามไปด้วย กระทั่งหมอส่วนตัวไปด้วย ให้พวกเขารับประกันความปลอดภัยตลอดทางของผม”
ตู้ไห่ชิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามลองเชิง: “จือเฟย แกตัดสินใจแล้วจริงๆ เหรอ? ยังมีพื้นที่ว่างให้ถอยไหม?”
ซูจือเฟยลุกขึ้นมา เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและแน่วแน่: “แม่ ไม่ต้องโน้มน้าวผมหรอก ผมตัดสินใจแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...