“แน่นอนอยู่แล้ว!” เซียวฉางควนรีบพูดว่า “องค์กรเอกชนเดิมทีก็มีการเป็นสปอนเซอร์ให้อยู่แล้ว อีกอย่างงานกิจกรรมทุกงานก็จะให้ค่าแรงงานและค่าที่ปรึกษากับพวกเรา ฉันฟังประธานเพ๋ยคำนวณมาว่าอาทิตย์หนึ่งจัดงานกิจกรรมสองครั้ง แล้วถ้าฉันออกงานทั้งหมด หนึ่งงานน่าจะได้ประมาณสามพันถึงห้าพัน”
“แม่เจ้า!” หม่าหลันพูดอย่างตกใจว่า “หนึ่งงานได้เงินขนาดนี้เชียว? งั้นอาทิตย์หนึ่งสองงาน เดือนหนึ่งก็แปดงาน ถ้างานละสามพันละก็ เดือนหนึ่งก็สองหมื่นกว่าแล้ว!บวกกับเงินเดือนอีก เดือนหนึ่งก็ได้เงินสามหมื่นกว่าเลยสิ?”
“ใช่แล้ว” เซียวฉางควนพยักหน้า พูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่เข้าใจเลย ทำไมถึงได้มีคนมากมายชอบอาสาเข้าร่วมสมาคมหรือสังคมต่างๆที่มันไม่ได้เงิน ยังคิดว่าพวกเขาแค่เสแสร้งเท่านั้น ตอนนี้ถึงได้เข้าใจ ที่แท้ในนี้ก็ยังมีอีกหลายอย่าง ถ้าทำได้ดี ก็ยังมีพื้นที่หากำไรอย่างมากเลย”
หม่าหลันมีความสนใจขึ้นมาในทันที มองดูเซียวฉางควน ถามด้วยน้ำเสียงมีความประจบว่า “ฉางควน รอขาของฉันหายแล้ว นายพาฉันเข้าสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของพวกนายด้วยได้มั้ย? ถึงตอนนั้นจัดตำแหน่งว่างๆอะไรให้ฉันก็ได้ แล้วก็ให้เงินเดือนฉันด้วย ถ้าหากว่ามีงานกิจกรรม ฉันก็สามารถไปด้วยได้ ยังไงซะก็อยู่บ้านว่างๆ”
พูดถึงนี่ หม่าหลันก็ลูบขาขวาของตัวเอง พูดอย่างถอนใจว่า “เฮ้อ ครึ่งปีนี้ฉันนี่ซวยมากจริงๆ ไม่มีอะไรทำ รักษาขาอยู่ที่บ้านเงียบๆ ทำเอาฉันอึดอัดสุดๆเลย”
เซียวฉางควนสะดุ้งทีหนึ่ง รีบพูดกล่อมว่า “โอ๊ย สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของฉันไม่รับสมาชิกตั้งนานแล้ว ตอนนี้เข้าแถวอย่างเข้ามามีอยู่ตั้งหลายสิบคน ต่างก็รอสัมภาษณ์และตอบคำถามอยู่ เธอไม่เข้าใจอะไรในการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ฉันว่าอย่าไปลำบากเลย อยู่บ้านสบายๆก็ดีไม่ใช่รึไง? รอขาหายดีแล้วก็ไปเดินเล่น เที่ยวเล่นก็ดีนี่”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เซียวฉางควนคงจะพูดประชดไปนานแล้ว หม่าหลันที่ไร้เหตุผลอย่างเธอ ยังอยากจะเข้าสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด? เธอคงจะเพ้อฝันไปแล้ว
แต่ว่า เข้าก็รู้ดีว่า พูดแบบนี้ในเวลานี้ หม่าหลันโมโหขึ้นมา ดีไม่ดีก็จะไปให้ได้อีก เพราะงั้นทำได้แค่พูดจากล่อมดีๆเท่านั้น
แต่ถึงจะอย่างนี้ หม่าหลันก็ยังไม่ค่อยพอใจ พูดเสียงเย็นชาว่า “ทำไม? นายดูถูกฉันรึไง? เซียวฉางควนอย่างนายยังสามารถเข้าสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเป็นรองประธานาธิบดี ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้าไปเป็นสมาชิกเลยงั้นหรอ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ารองประธานาธิบดีนี้ของนายได้มายังไงนะ ก็เพราะเกียรติของลูกเขยที่แสนดีของฉันไม่ใช่รึไง? ไม่อย่างนั้นคนนิสัยไม่ชอบพูดจาอย่างนาย ก็ถูกคนอื่นเขาบีบออกมานานแล้ว รอให้หมาที่สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดเลี้ยงไว้หน้าประตูได้เป็นรองประธานแล้วก็ยังไม่ถึงคิวนายหรอก!”
เมื่อนึกถึงนี่ เขารีบพูดว่า “โถ่ที่รัก เธอดูนะตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของหน้าที่การงาน แล้วจู่ๆเธอก็หาความสัมพันธ์เอาตัวเองเข้าไป มาทำคู่ผัวเมียกับฉัน คนอื่นจะมองฉันยังไง? งั้นเซียวฉางควนอย่างฉันในสายตาคนอื่น ก็จะกลายเป็นสสนใจแต่คนที่บ้านไม่แคร์คนอื่นแล้วไม่ใช่หรือไง? ถ้าหากว่าเธอให้การสนับสนุนหน้าที่การงานของฉันจริงๆ ก็จะต้องหลบภัยเองสิ!”
พูดถึงนี่ เซียวฉางควนเห็นว่าสีหน้าของหม่าหลันแย่มาก จึงได้โบกมือ กัดฟันพูดว่า “เอาอย่างนี้ ต่อไปเธอก็ไม่ต้องไปสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดอะไรนั่นแล้ว เงินเดือนของฉันแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่ง เธออยากจะใช้ยังไงก็ได้ เป็นยังไง?”
หม่าหลันเมื่อได้ยินถึงเงิน ตาก็เป็นประกายในทันที พูดออกไปว่า “ไม่ได้ นายต้องให้เงินเดือนทั้งหมดกับฉัน!”
เซียวฉางควนกัดฟันกระทืบเท้า ส่งเสียงผ่านซอกฟันมาว่า “ได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...