เย่เฉินนึกย้อนกลับไปตอนที่ต่งรั่งหลินเคยเจอเขากับกู้ชิวอี๋ที่ทะเลสาปโห้วไห่ ตอนนั้นเขาหลอกเธอว่า ตัวเองเป็นผู้ช่วยในบ้านของกู้ชิวอี๋ ทั้งๆที่ต่งรั่งหลินรู้ดี แต่ยังถามเขาอย่างนี้ คงกำลังแซวเขาอยู่แน่ๆ
ดังนั้น เขาจึงพูดออกไปว่า “จริงๆแล้วผมไม่ได้สนเรื่องดารานักร้องเท่าไหร่หรอก แต่ว่าชูหรันชอบ ผมก็เลยมาดูเป็นเพื่อนเธอ”
“อย่างนี้นี่เอง” ต่งรั่งหลินไม่ได้เปิดโปงเขา หันไปถามเซียวชูหรันยิ้มๆว่า “นี่ ชูหรัน พวกแกได้ที่นั่งโซนไหนแถวไหน? ขอดูหน่อยว่าเราอยู่ใกล้กันหรือเปล่า”
เซียวชูหรันเอ่ยพูดอย่างเขินๆ “ถ้าแกไม่ถามฉันก็คงลืมไปแล้ว เย่เฉินเขาเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วน่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านั่งอยู่แถวไหน”
พูดจบ เธอก็มองมาที่เย่เฉิน พูดว่า “ว่าแต่ที่รัก ฉันยังไม่ถามคุณเลยนี่เนอะ ที่นั่งเราอยู่แถวไหนเหรอ?”
เย่เฉินล้วงตั๋วออกมาดู แล้วพูดว่า “บนนี้เขียนเอาไว้ว่าแถวแรกติดเวที หมายเลขที่นั่ง18กับ19”
ต่งรั่นหลินอุทานออกมาในทันที “ว้าว! แถวแรกติดเวทีเลยเหรอ?! เย่เฉิน นี่มันตำแหน่งทองเลยนะ! แย่งชิงตั๋วแบบนี้มาได้ คุณนี่มันเจ๋งชะมัด!”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “จริงๆแล้วก็เพราะมีเส้นสายด้วยส่วนหนึ่งล่ะ คุณเองก็รู้ ว่าผมรับจ้างดูฮวงตุ้ยให้คนอื่นบ่อยๆ”
ต่งรั่งหลินเบ้ปาก ล้วงตั๋วของตัวเองออกมาดู เอ่ยพูดอย่างหงอยๆว่า “เฮ้อ นี่ขนาดฉันติดต่อเส้นสายไปทั่ว ยังได้ตั้งแถวหกแหนะ ห่างจากพวกคุณตั้งหลายแถว”
ถ้าเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ๆมักจะเลือกจัดที่สนามกีฬา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานระดับสนามฟุตบอล ดังนั้นพื้นที่ในโดมจึงมีความจุและพื้นที่ที่ใหญ่มาก
แต่ว่าเนื่องจากต้องจัดเวทีไว้ตรงขอบสนาม ดังนั้นตั๋วที่เอามาขายได้ราคาดีจะมีอยู่แค่ครึ่งโซน
เซียวชูหรันเองก็คาดคิดไม่ถึง ว่าเย่เฉินจะหาที่นั่งดีขนาดนี้มาได้ จึงอดกระซิบเสียงเบาไม่ได้ว่า “ที่รัก ทำไมคุณกู้ส่งตั๋วที่นั่งดีขนาดนี้ให้คุณได้ล่ะ?”
เย่เฉินกระซิบข้างหูเธอ “คนในวงการบันเทิงงมงายเรื่องฮวงจุ้ยมาก คุณไม่รู้เหรอ? ตอนนี้พวกดาราต่างก็เรียกผมว่าอาจารย์เย่ทั้งนั้น พวกเขาคงอยากสร้างคอนเน็กชันระยะยาวกับผม เพื่อที่จะได้ติดต่อผมไปดูฮวงจุ้ยให้ยังไงล่ะ แค่ส่งตั๋วที่นั่งดีๆมาให้ผมแค่นี้สำหรับพวกเขาแล้วมันจะไปหนักหนาอะไร?”
เซียวชูหรันแลบลิ้น แล้วล้อเล่นขึ้นมาว่า “เป็นอาจารย์นี่อยากทำอะไรก็สมใจอยากไปหมดเลยเนอะ แล้วเมื่อไหร่คุณจะเสกให้ฉันเป็นอาจารย์บ้างล่ะ?”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “ถึงเวลานั้นผมจะเสกให้คุณเป็นอาจารย์ผู้ประสบความสำเร็จ วันๆแค่ยืนบรรยายเรียกเสียงปรบมืออยู่บนเวที ก็มีค่าสอนโอนเข้าบัญชีมากถึงหกหลักเจ็ดหลักจากผู้เรียนนับไม่ถ้วนเลยเป็นไง”
เซียวชูหรันพูดยิ้มๆ “เรื่องชักจูงคนแบบนี้ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันตั้งใจทำงานออกแบบของฉันดีกว่า”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...