ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3092

สรุปบท บทที่ 3092 ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ...: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอน บทที่ 3092 ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ... จาก ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 3092 ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ... คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในขณะที่เส้นขอบฟ้าของซีเรียมีสีขาวดั่งท้องปลาปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย เย่เฉินก็แบกร่มกระโดดข้างหลัง จากนั้นก็กระโดดลงมาจากท้องฟ้าสูงพันเมตรเป็นครั้งที่สอง

ฮามิดมารอที่นัดหมายตั้งนานแล้ว แถมยังพาซูโสว่เต้าที่ยังนอนไม่ทันตื่นดี มารอที่ยอดภูเขาแล้ว

สองวันมานี้ซูโสว่เต้าเหนื่อยล้าทางสมองเนื่องจากการเคลื่อนไหวของสงครามเล็กน้อย ทุกวันกินนอนไม่ดี อุตส่าห์นอนหลับได้ไม่นาน ก็ถูกฮามิดกระชากตัวออกมาจากถ้ำเสียแล้ว

ซูโสว่เต้าถูกฮามิดกระชากตัวออกมาด้วยความสะลึมสะลือ นึกว่าตนจะถูกฮามิดยิงเป้าตายเสียอีก หลังจากสอบถามแล้วฮามิดก็ไม่บอกเหตุผล ทำเอาเขาจิตใจกระส่ายกระสับ กระวนกระวายใจที่สุด

ยอดเขาที่เห็นว่างเปล่า บริเวณรอบๆ ก็ไร้สิ่งอันใด ในใจของเขาเย็นยะเยือกขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามฮามิด: “จอมพลคามมิต ท่าน...ทำไมท่านพาผมมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ล่ะ จะทำอะไรเหรอ?”

ฮามิดเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก: “แกเงียบๆ ไปเลย อยู่เฉยๆ น่า! ฉันต้องการทำอะไรน่ะเหรอ อีกสักครู่นายก็จะรู้แล้ว!”

ซูโสว่เต้าเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของฮามิด จึงทำได้เพียงหดคอ และไม่เอ่ยอันใดอีก

ในขณะนี้ ฮามิดหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา มองไปแถวท้องฟ้าที่เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อยหาอะไรบางอย่างไม่หยุด

และปากพลางเอ่ยพึมพำไปไม่หยุด: “ก็น่าจะถึงเวลาแล้วนะ? อยู่ไหนล่ะ? มองไม่เห็นเลย”

ซูโสว่เต้ายิ่งเห็นดังนั้นก็ยิ่งฉงนใจ ครุ่นคิดเป็นเวลานาน อยู่ๆ ภายในหัวก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามอย่างลนลานว่า: “จอม...จอมพลคามมิด...ใกล้จะถึงวันเช็งเม้งแล้ว เย่เฉินจะให้ท่านส่งผมกลับไปใช่ไหม? ผมไปตอนนี้ไม่ได้นะ! ไม่งั้น ดีไม่ดีเฮลิคอปเตอร์ยังไม่บินออกไปไกลมาก ก็คงจะถูกคนของสำนักว่านหลง ยิงปรมาณูใส่ผมตายก่อน...”

ดังนั้น ภายในใจของเขาจึงหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

ฮามิดฟังเขาเอ่ยพึมพำไม่หยุดอยู่ข้างหู จึงถีบเขาไปด้วยความไม่พอใจ เอ่ยด่าทอไปว่า: “พูดมากอยู่นั่นแหละ ฉันบอกให้แกหยุดพูดเพ้อเจ้อ แกฟังไม่รู้เรื่องหรือไง?”

ซูโสว่เต้าทั้งโมโหทั้งกลัวในใจ ทว่าก็ไม่ยอมที่จะให้ชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอยู่ในอันตราย ทำได้เพียงเอ่ยอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร: “จอมพลคามมิต ท่านฟังผมนะ ในเมื่อศัตรูได้ล็อกพวกเราเอาไว้แล้ว ก็จะต้องคิดสารพัดวิธีในการล็อกทั้งทางบกและทางอากาศของเราแน่นอน เฮลิคอปเตอร์เป็นเป้าใหญ่ เสียงรบกวนก็ดังมาก หากบิดขึ้นไปจริงๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งชีวิตไปตาย ผมตายไปไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าผมตายไปแล้วก็ยังพาเฮลิคอปเตอร์ราคาแพงของท่านไปด้วยอีก นั่นมันไม่คุ้มเลยนะครับ ท่านคิดว่าไงครับ?”

ฮามิดกระชากคอเสื้อของเขา แล้วตบใบหน้าสองข้างซ้ายขวา ปริปากด่าทอ: “ฉันบอกว่าให้หุบปาก หุบปาก!”

ตบสองครั้งนั้น ทำเอาซูโสว่เต้ามึนหูดับทันที และยังไม่ทันรอให้ซูโสว่เต้าเรียกสติกลับคืนมาได้ ฮามิดก็ถอดหมวดหมวกเบเร่ต์รุ่นเดียวกับสตอลโลนออก จากนั้นออกแรงทำให้หมวกเป็นลูกกลมๆ บีบแก้มสองข้างของซูโสว่เต้า จากนั้นก็ยัดหมวกลงไปในปากของเขา พร้อมด่าว่า: “ขืนพูดอีกที ฉันจะให้คนเอาขี้ให้แกกิน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน