เย่เฉินมองไปยังซูโสว่เต้า พบว่าปากของหมอนั่นบวมขึ้นมา ทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าไปทันที รู้สึกอึ้งไปในชั่วขณะ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามฮามิด: “พี่ชาย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ฮามิดมองไปยังซูโสว่เต้า ยิ้มพลางเอ่ย: “แหม ก็เจ้าหมอนี่มันพูดพล่ามไม่หยุดน่ะสิ หงุดหงิดแทบแย่ ฉันก็เลยอุดปากมันไว้”
สิ้นเสียง ก็บีบแก้มของซูโสว่เต้า พร้อมกระชากหมวกบาเร่ต์ออกจากปากเขา
ซูโสว่เต้าลูบแก้มของตัวเองอย่างแรงด้วยความเจ็บปวด ฮามิดสะบัดหมวกบาเล่ต์ที่ยับยู่ยี่ พร้อมตบไปที่ขาหลายรอบ
หลังจากที่หมวกขยายออกแล้วนั้น เขาก็สวมเข้าไปบนศีรษะ แถมยังปรับตำแหน่งซ้ายขวา จากนั้นก็โอบไหล่ของเย่เฉิน พร้อมเอ่ยอย่างร่าเริง: “ไป! น้องเย่! ไปดื่มกาแฟสักแก้วที่ห้องทำงานฉัน พวกเราไปคุยกันดีๆ !”
เย่เฉินมองหมวกเบเร่ต์ที่อยู่ศีรษะของเขา จากนั้นก็มองซูโสว่เต้าที่สีหน้าเจ็บปวด จึงได้ยิ้มอย่างเอือมระอา ถามเขาว่า: “สถานการณ์สองวันนี้เป็นยังไงบ้าง? สำนักว่านหลงมาหาเรื่องพี่อีกหรือเปล่า?”
“เปล่า” ฮามิดปริปากเอ่ย: “ทหารสอดแนมของพวกเราได้รับข่าวสาร ว่าตอนนี้พวกเขากำลังล้อมเข้ามาแคบลงเรื่อยๆ แต่ว่าฉันเห็นว่าในเวลาอันสั้นนี้พวกเขาไม่มีแผนว่าจะลงมือ จะต้องกลัวฉันแน่เลย”
สิ้นเสียงฮามิดก็ชูนิ้วโป้งขึ้นมา พร้อมเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ: “น้องชาย ครั้งนี้ฉันได้พึ่งบารมีของนายจริงๆ ถ้าไม่ใช่นายชี้แนะเรื่องทั้งหมดให้ฉัน บอกให้ฉันเรียนแบบทัศนคติของกานหลิ่ง เตรียมพร้อมในการรับมือกับสงครามระยะยาว ฉันอาจจะต้องถูกไอ้พวกระยำจากสำนักว่านหลงจัดการจนตายไปแล้ว! ก็เป็นเพราะฟังคำกำชับของนาย ฉันเลยจัดการพวกมันไปรวมกันได้สาม สี่พันคนแล้ว แต่ตัวเองเสียหายไม่ถึงร้อยคนเลย ผลงานการรบที่สง่างามนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เลย”
ซูโสว่เต้าได้ยินประโยคนี้ ก็อึ้งไปกว่าเดิมในทันที แม้แต่ความเจ็บปวดของแก้มก็ไม่สนใจแล้ว
ในใจของเขาตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เอ่ยในใจว่า: “แม่เจ้า! กลยุทธ์รบที่แยบยลของฮามิดที่ใช้ไปนั้น ที่แท้ก็เป็นความเห็นของเย่เฉินนี่เอง! ฉันก็ว่าทำไมกลยุทธ์นี้ของพวกเขาทำไมถึงได้คุ้นนัก! ที่แท้ก็เรียนรู้มาจากเหล่ารุ่นพี่ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรานี่เอง!”
ฮามิดหันหน้าไปพูดกับเย่เฉิน: “น้องไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้นอกจากถ้ำของเขาแล้ว ก็ไม่กล้าไปไหนเลย ไม่มีทางหนีหรอก”
เย่เฉินหุบยิ้ม พยักหน้าเบาๆ
ซูโสว่เต้าไม่กล้าไปสถานที่อื่นจริงๆ
เมื่อก่อนฮามิดกลัวเขาจะหนีไป ทว่าตั้งแต่ที่มีสงคราม ฮามิดก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าหากซูโสว่เต้ากล้าหนีไปจริงๆ อาจจะหนีไปไม่ไกลกี่กิโลเมตร ก็ถูกมือปืนซุ่มยิงของฝ่ายนั้นจากที่ไหนสักแห่งยิงตายแล้ว
ถึงอย่างไร หลังจากที่สำนักว่านหลงเสียหน้าไปเยอะ ก็เคยทิ้งคำขู่เอาไว้ ว่าจะไม่ให้แม้แต่แมลงวันตัวเดียวมีชีวิตรอดออกไปได้ ดังนั้นไม่ว่าซูโสว่เต้าจะมีความกล้าแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าหนีหรอก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...