หลังจากนั้น ผู้ช่วยกล่าวอีกครั้งว่า “ทหารระดับรากหญ้าของสำนักว่านหลงเป็นทหารรับจ้างที่ค่อนข้างจะไร้เดียงสา พวกเขาฝึกฝนและต่อสู้อย่างหนัก ก็เพื่อที่จะมีรายได้เพิ่ม และเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มิเช่นนั้น คุณคิดว่าจะมีใครกล้าทำงานที่เสี่ยงแบบนี้?”
เฉินจงเหล่ยพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง
เขารู้สถานการณ์ปัจจุบันของสำนักว่านหลงเป็นอย่างดี
ถึงแม้สำนักว่านหลงจะมีสี่ราชันสงครามและนายพลหลายร้อยคน แต่สำนักว่านหลงยังมีทหารธรรมดาหลายหมื่นคน ซึ่งเกือบทั้งหมดเข้ามาเป็นสมาชิกของสำนักว่านหลงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
ทหารรับจ้างเหล่านั้น ไม่มีความจงรักภักดีต่อสำนักว่านหลงแต่อย่างใด ทุกคนคิดว่ารายได้ ขนาดที่ใหญ่ขององค์กร และชื่อเสียงของสำนักว่านหลงนั้นไม่เลว ดังนั้นจึงเลือกมาทำงานกับสำนักว่านหลง
ดังนั้น คนกลุ่มนั้นจะไม่กล้ำกลืนความอัปยศอดสูเพื่อที่จะดำเนินให้ภารกิจที่หนักอึ้งนั้นสำเร็จและก้าวไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของสำนักว่านหลง
สิ่งที่พวกเขาสนใจคือตนเอง
ขณะนี้ ผู้ช่วยของเขากล่าวอีกครั้งว่า “ส่วนเรื่องที่พัก ความจริงนั้นพอจะเข้าใจได้ คุณลองคิดดู พวกเราไม่รู้ว่าจะต้องโอบล้อมเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหน ถ้าเป็นสามถึงห้าวัน หรือครึ่งเดือน ทุกคนน่าจะยอมรับและอดทนพักอยู่ในกระโจมได้ ถึงแม้จะไม่มีไฟฟ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ยาวนานต่อเนื่องสองสามเดือนหรือกระทั่งนานกว่านั้น ทุกคนคงไม่เต็มใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในกระโจมนานหลายเดือนแน่นอน...”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ผู้ช่วยเตือนว่า “จอมพล ซีเรียนั้นกำลังจะถึงฤดูร้อนในเร็ว ๆ นี้ อุณหภูมิตอนกลางวันจะอยู่ที่ 37 - 38 องศา หรือ 40 องศา เมื่อพักอาศัยอยู่ในกระโจมนั้นอาจจะทำให้ทุกคนจะทนไม่ไหว....... ”
คำพูดของผู้ช่วย ทำให้เฉินจงเหล่ยรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก
วิธีแก้ปัญหาเรื่องอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เขาสามารถซื้ออาหารจากอิสราเอลได้ ไม่ว่าจะเป็นสเต๊ก ผัก และนม อิสราเอลสามารถจัดหามาได้ เพียงแค่จ่ายเงินเพิ่มหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
ดังนั้น เขาจึงยังคงหวังว่าจะหาทางแก้ปัญหาในซีเรียด้วยตนเองได้
เช่นนี้ ยังคงสามารถรักษาสถานะของตนเองในฐานะราชันสงครามได้
เมื่อผู้ช่วยฟังถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความกังวลว่า “จอมพล หรือว่าเรื่องนี้จะให้ประมุขมาแก้ปัญหาด้วยตนเอง? เมื่อเป็นเช่นนั้น จะเกิดผลเสียสำหรับพวกเรา!”
เฉินจงเหล่ยกล่าวด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ถ้าพวกเราไม่มีวิธีที่ดีในการจัดการฮามิด เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้ผมไม่ต้องการให้ประมุขมาที่นี่ ประมุขก็จะไม่สนใจผม!”
ทันทีที่กล่าวจบ ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลก็รีบเข้ามาและกล่าวโพล่งออกมา “เฉิน ฮามิดส่งคนมาบอกผมว่าเขาต้องการเจรจาสงบศึก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...