“เจรจาสงบศึก?!”
ทันทีที่เขาได้ยินว่าฮามิดต้องการเจรจาสงบศึก เฉินจงเหล่ยกล่าวด้วยความโมโหว่า “ไอ้สารเลวนั้นฆ่าทหารของสำนักว่านหลง 2,000 กว่าคน ทำให้พวกเราเสียหน้าต่อทหารรับจ้างนานาชาติ แล้วตอนนี้มาบอกว่าต้องการเจรจาสงบศึกกับผม!? ผมบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน! สำนักว่านหลงของพวกเราจะไม่ตกลงแน่นอน!”
ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลถามกลับว่า “ไม่ยอมเจรจาสงบศึก แล้วยังไม่ยอมโจมตี หรือพวกคุณจะถ่วงเวลาเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ?”
เฉินจงเหล่ยกล่าวอย่างเย็นชา “เรื่องที่ไม่เจรจาสงบศึก พวกเราบรรลุข้อตกลงเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วไม่ใช่หรือ? ตอนนั้นความคิดเห็นของทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก นั่นคือต้องกำจัดกองกำลังติดอาวุธของฮามิดให้ได้ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน ตอนนี้พวกคุณเปลี่ยนใจแล้วหรือ?”
อีกฝ่ายกล่าวว่า “สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตอนแรกเหตุผลที่พวกเราบอกว่าไม่ยินยอมเจรจาสงบศึกนั้นเพราะพวกเรารู้สึกว่าฮามิดจะต่อต้านจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเจรจาสงบศึกกับพวกเรา แต่ตอนนี้พวกเขาแสดงเจตจำนงเรื่องนี้แล้ว ทำไมพวกเราไม่ใช้โอกาสนี้เจรจากับพวกเขาดี ๆ?”
เฉินจงเหล่ยกล่าวอย่างเฉียบขาดว่า “พวกเราสำนักว่านหลงไม่มีอะไรจะเจรจากับเขา แม้ว่าพวกคุณต้องการเจรจาสงบศึกกับเขา พวกเราก็จะไม่เปลี่ยนความตั้งใจเดิมของพวกเรา จะสับฮามิดและลูกน้องของเขาเป็นหมื่นชิ้น!”
อีกฝ่ายขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ถ้าคุณมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะฆ่าฮามิดเช่นนี้ ผมขอแนะนำให้คุณรีบออกรบอย่างรวดเร็ว อย่าปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าเช่นนี้ แม้ว่าพวกคุณจะยอมรับได้ แต่ผมจะทนไม่ไหวแล้ว!”
หลังจากนั้น เขากล่าวอย่างหมดความอดทน “เอาล่ะ พวกเราจะถอนกำลังออกไปก่อน สำนักว่านหลงของพวกคุณล้อมฮามิดอยู่ที่นี่ต่อไป”
เฉินจงเหล่ยขมวดคิ้วและดุด่า “แม่งฉิบหาย คุณหยอกล้อผมหรือ? พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยคุณสู้รบ แต่ปรากฏว่าคุณต้องการถอนกำลัง?”
“ไม่งั้นล่ะ?” อีกฝ่ายถามกลับ “หรือว่าคุณต้องการให้ผมเสียเวลาเป็นเพื่อนคุณอยู่ที่นี่หนึ่งปี? คุณคิดว่าในประเทศของพวกเรามีฮามิดเป็นศัตรูเท่านั้นหรือ? พวกเรายังมีศัตรูที่เหมือนฮามิดอยู่อีกมากมายที่กำลังรอให้พวกเราไปกำจัด และพวกเราไม่มีอารมณ์ที่จะเสียเวลาไปกับฮามิดที่นี่ได้อีก”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินจงเหล่ยรีบหว่านล้อม “ตอนนี้พวกคุณอย่าเพิ่งถอนกำลัง เหตุผลที่ฮามิดมาขอเจรจาสงบศึกในเวลานี้ ต้องเพราะพวกเขายืนหยัดไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงต้องการหาวิธีเอาตัวรอดผ่านการเจรจาสงบศึกก่อนที่พวกเขาจะล่มสลาย ถ้าหากพวกเรายืนหยัดอดทน บางทีอีกฝ่ายอาจล่มสลายไปเอง!”
ผู้รับผิดชอบกองทัพของรัฐบาลกล่าวว่า “ตามข้อมูลที่พวกเราได้รับ ฮามิดน่าจะมีเสบียงสำรองจำนวนมาก ถ้าเป็นเวลานานนั้นไม่กล้าพูด แต่สามารถยืนหยัดได้หลายเดือนอย่างแน่นอน!”
เฉินจงเหล่ยรีบกล่าวว่า “ทั้งหมดนี้เป็นข่าวลือจากโลกภายนอก ไม่มีใครรู้ว่าฮามิดมีเสบียงสำรองไว้เท่าไร ถ้าฮามิดจงใจปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนให้แก่พวกเราล่ะ? ทำให้พวกเราเข้าใจผิดคิดว่าเขามีเสบียงมากมายแล้ว แล้วเจรจาสงบศึกกับเขา และพวกเราจะโดนเขาหลอก!”
หลังจากนั้น เฉินจงเหล่ยกล่าวเสริมว่า “และคุณอย่าลืมว่า ก่อนหน้านั้นเขาได้รวบรวมทหารพลัดถิ่นไว้จำนวนมาก และตอนนี้จำนวนทหารของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เวลายิ่งนานการบริโภคเสบียงนั้นยิ่งเร็วขึ้น! ดีไม่ดี ตอนนี้อาจยืนหยัดไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ และสิ่งที่พวกเราต้องทำคืออดทนยืนหยัดอีกสักนิด และขณะเดียวกันพวกเราก็ต้องมีทัศนคติที่แน่วแน่ต่อฮามิดมากขึ้น ถ้าพวกเราไม่ให้โอกาสฮามิดไกล่เกลี่ย ฮามิดจะต้องเกิดความโกลาหลวุ่นวายอย่างแน่นอน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...