เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!”
เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?”
“โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!”
……
หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว
เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่
เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง
เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน
ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย
ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที”
ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?”
เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน”
ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...