หลังจากนั้น เย่เฉินบอกอย่างละเอียดว่า “ผมจะผนึกจิตสำนึกของคุณทั้งหมด แต่ไม่ต้องกังวล หลังจากผนึกแล้ว จะเก็บความทรงจำทั้งหมดของคุณไว้ แต่ร่างกายของคุณจะขาดการเชื่อมต่อจากจิตสำนึกของคุณโดยสิ้นเชิง ร่างกายของคุณจะปฏิบัติตามมาคำสั่งของผม”
“เมื่อถึงเวลานั้น ถึงแม้ว่าจิตสำนึกของคุณเองจะรู้ชัดเจนทุกอย่าง แต่คุณจะไม่สามารถทำอะไรได้”
“กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ จิตสำนึกของคุณจะถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์อยู่ในสมองของคุณ ขอเพียงแค่ผมไม่ปล่อยคุณไป คุณก็จะไม่มีวันเป็นอิสระ”
เฉินจงเหล่ยรู้สึกสิ้นหวัง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร้องไห้และถามว่า “คุณ.....คุณมีปราณทิพย์ได้อย่างไร? นั่นเป็นพลังที่มีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้นไม่ใช่หรือ?! คุณ.....คุณเป็นใครกันแน่?!”
เย่เฉินส่ายศีรษะและกล่าวเยาะเย้ยว่า “ผมเป็นพ่อของคุณ!”
เฉินจงเหล่ยตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง เขาร้องไห้และกล่าวว่า “ไม่ ได้โปรดอย่าผนึกจิตสำนึกของผมเลย ผมไม่ต้องการที่จะมีชีวิตเหมือนคนที่ตายไปแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย ขอเพียงแค่คุณยอมยกโทษให้ผม ผมจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณทั้งหมด! ผมสามารถให้ทหารที่อยู่ข้างนอกทั้งหมดของสำนักว่านหลงปลดอาวุธและยอมจำนนทันที แล้วแต่คุณจะสั่งการ ขอร้องโปรดปล่อยผมไปเถอะ....ขอร้องเถอะ.....”
เย่เฉินถามเขาด้วยรอยยิ้มว่า “คุณยอมเชื่อฟังผมทุกอย่างจริงหรือ?”
เฉินจงเหล่ยพยักหน้าอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลังเล และกล่าวรับประกันว่า “ผมขอสาบานต่อสวรรค์ ผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง คุณให้ผมอะไร ผมก็จะทำตามทุกอย่าง!”
เย่เฉินยิ้มและกล่าวอย่างจริงจังว่า “บอกตามตรง ผมไม่ค่อยเชื่อคุณ เพราะคนอย่างคุณสามารถฆ่าได้แม้แต่คู่หูของตนเอง แล้วคุณจะทำตามสัญญาได้อย่างไร?”
เฉินจงเหล่ยทรุดตัวลงและอ้อนวอน “ผมขอสาบานต่อสวรรค์ ผมจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณทุกอย่างจริง ๆ ได้โปรดเชื่อผม.....ผมไม่ต้องการที่จะติดอยู่ในร่างของตนเองตลอดไปจริง ๆ....ขอร้องได้โปรดเถอะ.....”
เย่เฉินหัวเราะและกล่าวว่า “ต้องขอโทษ ผมยังไม่เชื่อคุณ”
หลังจากกล่าวจบ นิ้วของเย่เฉินปล่อยปราณทิพย์เข้าไปในสมองของเฉินจงเหล่ยอีกครั้ง
ท่าทางของเฉินจงเหล่ยสงบลงอย่างรวดเร็ว จากความตื่นตระหนกสุดขีดและกลายเป็นการแสดงออกเซื่องซึมและมึนงง
ตอนนี้เย่เฉินปล่อยมือ แล้วชี้ไปที่ผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลซึ่งนอนอยู่บนพื้น และสั่งเฉินจงเหล่ยว่า “ไปนำเขามาวางไว้บนโต๊ะประชุม”
ขณะนี้จิตสำนึกของเฉินจงเหล่ยสามารถได้ยินสิ่งที่เย่เฉินพูด และสามารถรับภาพที่ดวงตาได้ แต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้แม้แต่น้อย
แต่สำหรับเย่เฉินแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เย่เฉินรู้สึกว่าถ้าไม่ช่วยเขา ก็สามารถให้เฉินจงเหล่ยพาตนเองออกจากที่นี่ได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่ให้เฉินจงเหล่ยสั่งให้ทหารของสำนักว่านหลงปลดอาวุธ หรือให้เฉินจงเหล่ยคุ้มกันตนเองเพื่อพาซูโสว่เต้าออกไปจากประเทศซีเรียได้
เพียงแต่ หลังจากคิดทบทวนแล้ว เย่เฉินรู้สึกว่าไม่ควรปล่อยสำนักว่านหลงไปง่าย ๆ
ตอนนี้ มีเพียงผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลเท่านั้นที่รู้ความจริงทั้งหมดของสำนักว่านหลง
ถ้าช่วยชีวิตเขาแล้ว กองทัพของรัฐบาลจะแตกหักกับสำนักว่านหลงอย่างสิ้นเชิง
อีกอย่างตนเองก็สามารถควบคุมเฉินจงเหล่ยได้
หากวางแผนจัดการได้ดีแล้ว ก็จะสามารถส่งทหารของสำนักว่านหลง 15,000 คนนี้ ให้กับกองทัพของรัฐบาลได้อีกด้วย!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...