เมื่อได้ยินว่าเฉินจงเหล่ยกำลังจะโชว์ความสามารถต่อผู้แทนเจรจาที่ฮามิดส่งมา ทหารทั้งหมด 15,000 คนของสำนักว่านหลงเริ่มเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว
นอกจากเจ้าหน้าที่ระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยของสำนักว่านหลง คิดจะแก้แค้นให้พี่น้องที่ตายไปแล้ว ทหารสำนักว่านหลงที่เหลือส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องการแก้แค้น
เพราะอย่างไรทุกคนล้วนเป็นทหารรับจ้าง และคนจากทั่วสารทิศมารวมตัวกันที่สำนักว่านหลง พวกเขาไม่ได้มาเพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ แต่พวกเขามาเพื่อหาเงินเท่านั้น ใครตาย ใครได้รับบาดเจ็บ ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้ไม่ได้กระตุ้นพวกเขาแม้แต่น้อย
ประเด็นที่พวกเขาสนใจจริง ๆ เกี่ยวข้องกับตนเองอย่างใกล้ชิด เช่น ได้เงินเท่าไหร่? อันตรายหรือไม่? ยากลำบากหรือไม่?
ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง พวกเขาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย
ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงให้ความสนใจที่จะโชว์การเดินสวนสนาม และไม่ใช่เพื่อความรู้สึกภาคภูมิใจร่วมกัน แต่พวกเขารู้สึกเบื่อที่จะอยู่ในที่ทุรกันดารเช่นนี้ และพวกเขาต้องการให้สงครามจบโดยเร็วที่สุด
ตอนนี้อีกฝ่ายมาเจรจาสงบศึก แล้วพวกเขารีบไปเดินสวนสนามโชว์ความสามารถให้หน้าอีกฝ่าย ทางที่ดีที่สุดคือขู่พวกเขาและให้พวกเขายอมจำนนอย่างว่าง่าย
ได้ยินมาว่ากองทัพของรัฐบาลได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเดินสวนสนามคราวนี้ และคัดเลือกทหารมา 20,000 ถึง 30,000 คนจากที่อื่นเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ทหารของสำนักว่านหลงเหล่านี้ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ทหารทั้งสองฝ่ายรวมกันแล้วเป็นจำนวน 50,000 ถึง 60,000 คน แล้วผู้แทนเจรจาที่ฮามิดส่งมาจะไม่กลัวจนฉี่ราดหรือ?
สำหรับเรื่องที่ไม่อนุญาตให้ใช้กระสุนจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด การเดินสวนสนามด้วยกระสุนจริงในโลกนี้เคยเกิดขึ้นไม่กี่ครั้ง แต่การเดินสวนสนามของกองทัพมีอยู่เพียงครั้งเดียว นั่นคือการเดินสวนสนามของทหารโซเวียตในปี 1941 และหลังจากที่ทหารหลายแสนคนที่อยู่ฝั่งนี้เดินสวนสนามเสร็จสิ้นแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปที่สนามรบทันที เพื่อสู้รบและปกป้องประเทศของตนเอง
นอกจากนั้น การเดินสวนสนามจะต้องรับประกันว่าไม่มีกระสุนจริง มิฉะนั้น ถ้ามีคนบรรจุกระสุนไว้ในอาวุธปืน และขณะที่ตัวแทนของศัตรูมาอยู่ตรงหน้าแล้วถูกทหารยิงตาย จะทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ดังนั้น ทหารของสำนักว่านหลงได้นำกระสุนทั้งหมดออกจากอาวุธปืนของตนเอง และผู้บังคับบัญชาของพวกเขายังได้ออกคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับดำเนินการตรวจสอบอาวุธปืนของทหารระดับรากหญ้าเป็นครั้งที่สอง
ขณะเดียวกัน พวกเขารู้สึกดูหมิ่นทหารของรัฐบาลที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของตนเอง โดยคิดว่าคนพวกนี้เอ้อระเหยลอยชาย ไม่มีลักษณะของความเป็นทหารแม้แต่น้อย
แต่ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่กองทัพรวมตัวกัน และขณะที่ทหารของสำนักว่านหลง15,000 คนกำลังรอผู้แทนเจรจาของฮามิดปรากฏตัว กองทัพทหารของรัฐบาลทั้งหมดก็เล็งปืนไปที่ทหาร 15,000 คนของสำนักว่านหลง หลังจากนั้นมีคนตะโกนเสียงดังว่า “ทหารของสำนักว่านหลงทั้งหมดยกมือขึ้นและยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข ใครที่กล้าต่อต้าน และปฏิเสธการยอมจำนน จะถูกฆ่าตายทันที!”
คราวนี้ เกิดความโกลาหลกับทหาร 15,000 ของสำนักว่านหลงอย่างสิ้นเชิง!
ใครจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
แล้วใครจะคิดว่าเดิมพันธมิตรที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน จะหันปืนเข้าหากันอย่างกะทันหัน?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...