ซูเฉิงเฟิงได้ยินถึงสิ่งเหล่านี้ คนทั้งคนพูดถามอย่างค่อนข้างตกใจว่า : “พั่วจวิน ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่ารอถึงวันที่5แล้วจะจัดการตระกูลเย่เหรอ วันที่6ค่อยย้ายโลงศพพ่อแม่คุณเข้าไปในภูเขาว่านหลิงซานเหรอ?”
“เปลี่ยนแล้ว” ว่านพั่วจวินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและเฉียบขาด: “สำนักว่านหลงเกิดปัญหาบางอย่างที่เมืองนอกแล้ว ฉันจำเป็นต้องจัดการตระกูลเย่ให้เรียบร้อยแล้วรีบไปที่ตะวันออกกลาง อีกอย่างฉันยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่า ในพิธีบูชาบรรพบุรุษในวันนั้นของตระกูลเย่ ย้ายโลงศพของพ่อแม่ฉันเข้าไป ยิ่งจะทำให้ตระกูลเย่เสียหน้า !”
ซูเฉิงเฟิงรีบพูดกล่าวว่า : “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!พิธีบูชาบรรพบุรุษของตระกูลเย่ สิ่งที่บูชาเซ่นไหว้คือบรรพบุรุษนับร้อยกว่าหลายร้อยปีมาแล้ว ถ้าหากในวันเช็งเม้งวันนั้นคุณทำให้พวกเขาไม่สามารถกราบไหว้บรรพบุรุษได้ และเปลี่ยนเป็นกราบไหว้พ่อแม่ของคุณ งั้นหน้าตาของตระกูลจะต้องอันตรธานหายไป! ”
ว่านพั่วจวินยิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า : “สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่แค่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น!ฉันอยากจะขุดโลงศพบรรพบุรุษของตระกูลเย่ออกมาทั้งหมด ทำให้ศพของพวกมันถูกเปิดเผยในหุบเขาและท้องทุ่ง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่ไว้ให้พ่อแม่ของฉัน! อีกอย่าง ฉันก็จะขุดเย่ฉางอิงออกมา นำขี้เถ้าของเขามาทำลาย!ถึงตอนนั้น คุณจะได้เห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง”
“ไอ้หยา!งั้นก็ช่างโชคดีซะเหลือเกิน ช่างโชคดีซะเหลือเกิน!!!” ซูเฉิงเฟิงพูดติดต่อกันด้วยความตื่นเต้นมากว่า : “พั่วจวินคุณวางใจได้ พรุ่งนี้ผมกลับไปเย่นจิง!เช้าตรู่ของวันที่ 5 เมษายน แม้ว่าจะต้องตาย ผมก็จะไปตรงเวลาอย่างแน่นอน”
“โอเค” ว่านพั่วจวินพูดตรงๆไปว่า: “งั้นก็เจอกันวันที่ 5เมษายน!”
ซูเฉิงเฟิงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ว่านพั่วจวินวางสายไปแล้ว
ในเวลานี้ ซูเฉิงเฟิงพูดกล่าวกับซูอานสุ้นพ่อบ้านที่อยู่ข้างกายด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจจะเก็บซ่อนได้ว่า : “อานสุ้นเก็บของ เตรียมขึ้นเครื่องบิน พวกเราจะกลับเย่นจิงแล้ว!”
“กลางคืนเหรอ?” ซูอานสุ้นรีบพูดว่า : “คุณท่าน ในตอนกลางคืนเดินทางค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยและลำบาก คุณกลับถึงบ้านก็เกรงว่าจะดึกมากแล้ว จะทำให้เวลาพักผ่อนของคุณล่าช้า ”
“ไม่เป็นไร!” ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างไม่ลังเลเลยว่า : “จะต้องออกเดินทางในตอนกลางคืน ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถให้ใครรู้เรื่องที่ฉันกลับเย่นจิงได้ จะต้องนำพาความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมาแน่นอน พวกเรากลับไปฆ่ากันอย่างเงียบๆก่อน ถึงวันเช็งเม้งวันนั้น ก็ไปพร้อมกับว่านพั่วจวิน ไปยังภูเขาเย่หลิงซานเพื่อชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่ในหนึ่งศตวรรษมีเพียงครั้งเดียว ”
ซูอานสุ้นพยักหน้าแล้ว นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า : “จริงสิคุณท่าน ช่วงนี้สื่อภายนอกรายงานอยู่ตลอดเลยว่า บอกว่าสำนักว่านหลงได้รับบาดเจ็บและประสบความล้มเหลวอย่างมากมายในซีเรียแล้ว คุณคิดว่าว่านพั่วจวินจะยังสามารถกดขี่ตระกูลเย่ได้อีกไหม?อีกอย่างถ้าถึงตอนนี้เกิดเขาออกไปจากหัวเซี่ย ตระกูลเย่จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งไหม? ”
“กดไว้ได้ จะต้องกดไว้ได้แน่นอน!” ซูเฉิงเฟิงพูดด้วยใบหน้าที่หนักแน่นอย่างมากว่า : “ว่านพั่วจวินและกลุ่มลูกน้องของพวกเขา แต่ละคนต่างก็มีพละกำลังที่สุดยอด อีกอย่างตระกูลเย่อยู่ในที่สว่าง พวกเขาอยู่ในที่มืด ต่อให้เย่โจงฉวนเป็นคนที่ฉลาดขนาดนั้น เขาก็ไม่อาจจะคาดถึงพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษที่ 12 ปีมีแค่ครั้งเดียวของตระกูลเย่ จะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้หรอก ถึงตอนนั้นยอดฝีมือของสำนักว่านหลงก็จะไปฆ่าถึงภูเขาเย่หลิงซาน ทำให้ตระกูลเย่รับมือไม่ทันอย่างแน่นอน! ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ทำไมตอนซ้ำเยอะ ตอนก้ขาดหาย...
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...