เย่ฉางหมิ่นเห็นว่าเฮเลน่าปฏิเสธข้อเสนอการตรวจของแพทย์โดยไม่ลังเล อีกทั้งสีหน้ายังมีความวิตกกังวลกับความตื่นเต้น จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
โดยปกติแล้ว มีแค่คนจน หรือคนที่ไม่ได้มีฐานะขนาดนั้น ถึงจะกลัวการพบแพทย์
เพราะพวกเขารู้มาตั้งแต่เด็กว่า การพบแพทย์ จะต้องไปหาภายใต้การที่ตนเองป่วยเท่านั้น
เป็นเพราะการหาหมอมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ฉีดยาก็ต้องกินยา ดังนั้นจึงทำให้พวกเขามีความทรงจำไม่ดีกับหมอ จึงอดที่จัรู้ประหม่าเมื่อเอ่ยถึงหมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คนที่เกิดในครอบครัวแบบนี้ ถึงจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ยังคงมีความกลัวหมออยู่ ในชีวิตประจำวัน จึงมีหลักการที่ว่าถ้าไม่เป็นอะไรก็อย่าพยายามไปโรงพยาบาล
แต่เฮเลน่าไม่ใช่คนจน เธอเป็นคนรุ่นหลังของราชวงศ์ยุโรปที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี
โดยปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ หรือสมาชิกในตระกูลที่มั่งคั่งและผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ จะต้องมีนิสัยติดต่อไปมาหาสู่กับหมอตั้งแต่เด็ก
ยกตัวอย่างเช่นตระกูลเย่ ไม่เพียงแต่มีทีมแพทย์ดูแลสุขภาพของตัวเอง ยังมีโรงพยาบาลเอกชนเป็นของตัวเองอีกด้วย
นอกจากสมาชิกในตระกูลเย่อย่างเย่เฉินที่จากบ้านไปตั้งแต่เด็ก สมาชิกคนอื่นๆในตระกูลเย่ จะต้องตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละสองถึงสามครั้ง
โดยเฉพาะคนรุ่นหลังที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องตรวจทุกๆหนึ่งถึงสองเดือน แพทย์ด้านการดูแลสุขภาพจะทำการตรวจร่างกายและประเมินการเจริญเติบโตและการพัฒนา
หากรู้สึกไม่สบาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลเอง แต่ทั้งทีมแพทย์จะมาให้บริการถึงที่ จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ดังนั้น เด็กที่เติบโตในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ไม่เพียงแต่ไม่กลัวหมอ ในทางกลับกันยังต้องการพึ่งหมอมาก แค่ตัวร้อนปวดหัวเป็นไข้ ก็แทบอยากจะเรียกหมอส่วนตัวมาดูแลตลอด24ชั่วโมง
ด้วยเหตุนี้เอง เย่ฉางหมิ่นจึงค่อนข้างแปลกใจ
เธอมักรู้สึกว่าการแสดงออกถึงการกลัวหมอ จะต้องมีความลับอะไรซ่อนไว้แน่
“จากความแข็งแกร่งและตำแหน่งฐานะของตระกูลเย่ ถ้าพวกเขารู้ว่าตนป่วยเป็นโรคที่ไม่รักษาไม่หาย อีกทั้งยังมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี พวกเขาจะต้องไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอน……”
“พูดตรงๆก็คือ ขอแค่วันนี้เธอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เย่ฉางหมิ่นมาด้วยวันนี้ตรวจร่างกาย ฉันจะต้องถูกตระกูลเย่ยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอน……”
“ถ้าพูดกันอย่างใจเย็น ฉันกับเย่เฟิงไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน และก็ไม่อยากแต่งงาน เป็นภรรยาของเขาด้วย……”
“แต่ว่า ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรได้ ถ้าฉันไม่แต่งงานกับเย่เฟิง บั้นปลายชีวิตของมาฉันก็จะไม่ได้รับกันประกันใดๆทั้งสิ้น……”
“เธอแต่งงานเข้ามาอยู่ในราชวงศ์มายี่สิบกว่าปี ไม่มีงานทำ และไม่มีประกันสังคม ประกันสุขภาพ กระทั่งไม่มีทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น เธออยู่ในราชวงศ์ อย่างน้อยราชวงศ์ก็ยังให้อาหารที่พักและเครื่องนุ่งห่มกับเธอ ได้รับการรักษาฟรีจากราชวงศ์รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากถูกราชวงศ์ขับไล่ออกมา บั้นปลายชีวิตของเธอก็จะสูญเสียการประกันไปทั้งหมด……”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฮเลน่าก็ทำได้เพียงแค่ทำตัวให้เข้มแข็งขึ้น แล้วพูดอย่างไม่พอใจออกไปว่า“คุณผู้หญิงเย่คะ ฉันรู้ว่าคุณหวังดี แต่จู่ๆคุณก็พาผู้เชี่ยวชาญยกโขยงกันมา เพื่อบังคับให้ฉันตรวจร่างกาย นี่มันดูไร้เหตุผลเกินไปหน่อยมั้งคะ?ถึงแม้ฉันจะแต่งงานกับเย่เฟิง กลายเป็นสะใภ้ของตระกูลเย่ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...