เสียงคำรามของคุณท่านทำให้ทุกคนที่ต้องการพูดหุบปากทันที
ถึงแม้พวกเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องที่ต้องมอบชะตากรรมของตนเองไว้ในมือของเย่เฉิน แต่พวกเขารู้ว่าคุณท่านมีทางออก
ดังนั้น ตอนนี้เรื่องที่ไม่สามารถทำได้คือต่อต้านคุณท่านอย่างเปิดเผย
มิฉะนั้นหากคุณท่านยอมรับคำขอของอีกฝ่ายจริงๆ และยอมเสียเงินเพื่อขจัดภัยพิบัติแล้ว เขาจะต้องหาคนที่ต่อต้านตนเองอย่างเปิดเผย และคิดบัญชีย้อนหลัง
แม้แต่เย่ฉางโคงลูกชายคนโตก็ยังยอมแพ้ เขาเดินไปข้างหน้า แล้วตบเย่เฟิงอย่างแรง และกล่าวด้วยความโมโหว่า “คุณไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนหรือ?! ใครให้คุณพูดกับคุณปู่เช่นนี้?รีบไปขอโทษคุณปู่!”
เย่เฟิงรู้ว่าตนเองไม่สามารถปลุกระดมผู้อื่นได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงกระด้าง “คุณปู่ ขอโทษด้วย ผมผิดไปแล้ว........”
เย่โจงฉวนไม่ได้สนใจไยดีเขาแม้แต่นิด แต่มองไปที่เย่เฉินและถามเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม “เฉินเอ๋อ คุณไม่มีแผนหรือ? หรือว่าหาคนมาช่วย? หรือผมจะใช้เส้นสายดี?”
เย่เฉินโบกมือและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่จำเป็น เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้”
หลังจากกล่าวจบ เย่เฉินมองเวลาและกล่าวว่า “ตอนนี้ล่าช้าไปนานแล้ว พวกเรายังไม่ได้เริ่มคุยขั้นตอนของงานไหว้บรรพบุรุษเลย พวกเรากลับไปปรึกษาหารือเรื่องหลักกันเถอะ คราวนี้ผมกลับมา ก็เพื่อมางานไหว้บรรพบุรุษ ไม่ว่าจะยังไง จะกระทบกับเรื่องนี้ไม่ได้”
ตอนนี้คนของตระกูลเย่ต่างมีความรู้สึกอยากจะตาย
พวกเขามองเย่เฉินแบบเดียวกับที่พวกเขามองผู้ป่วยทางจิต
ตอนนี้ยังจะคิดเรื่องงานไหว้บรรพบุรุษอยู่อีก ปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ศีรษะแล้ว ซึ่งมันไม่แตกต่างกับกำลังคิดว่าคืนนี้จะดื่มเหล้าอะไรดี?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่โจงฉวนเห็นว่าตอนนี้สิ่งที่เย่เฉินคิดคือเรื่องที่อย่าให้กระทบงานไหว้บรรพบุรุษ ทำให้เขารู้สึกโล่งใจไม่น้อย
เย่เฟิงกล่าวโพล่งออกมาด้วยความโมโห “มีสิทธิ์อะไรให้ผมไปทำ?!”
เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ยกมือขึ้นและตบหน้าเย่เฟิงอย่างแรง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าไม่ทำ ก็ไสหัวออกไป!”
เย่เฟิงด่าด้วยความโมโห “คุณ.....คุณกล้าตบผม! แม่งฉิบหาย คุณเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม?! ผมคือหลานชายคนโตของตระกูลเย่! คุณเป็นตัวอะไร?!”
วันนี้เย่เฟิงถูกตบหน้าหลายครั้งแล้ว แต่คนที่ตบนั้นเป็นคุณปู่และพ่อของตนเอง นึกไม่ถึงว่าเย่เฉินจะกล้าตบตนเอง ซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นมาก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เย่โจงฉวนยกมือขึ้นและตบหน้าเขา และกล่าวด้วยความโมโหว่า “ความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำลายงานนั้นมีอยู่เหลือเฟือ! คุณทำเป็นหูทวนลมกับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่หรือ? ถ้าคุณไม่อยากทำ ก็รีบไสหัวออกไปจากตระกูลเย่! ช่วงนี้เป็นช่วงความเป็นความตายของตระกูลเย่ ใครก็ตามที่กล้าสร้างปัญหา ถึงแม้จะเป็นลูกของผม ผมจะไม่ยั้งมือไว้ไมตรีเช่นกัน!”
เมื่อสักครู่เย่เฟิงกำลังคิดที่จะถกเถียงกับเย่เฉิน แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกคุณท่านตบหน้าอีกครั้ง คราวนี้น้ำตาแห่งความคับข้องใจไหลออกมา แต่เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...