บทที่ 3289 – ตอนที่ต้องอ่านของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้ของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 3289 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ว่านพั่วจวินฟังมาจนถึงนี่ ก้มหน้าไว้ ทั้งร่างกายสั่นไหว น้ำตาไหลรินลงพื้นไม่หยุด
เขาเองก็อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ
แต่ว่า เขากลัวว่าเย่เฉินจะไม่ให้เขามีชีวิตอยู่ และก็ไม่ให้พวกลูกน้องของเขามีชีวิตอยู่ บวกกับที่จะรักษาศพและความสงบสุขของพ่อแม่ เขาทำได้เพียงเลือกความตาย
แต่ว่า จู่ๆในใจของเขาก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา “เมื่อกี้จู่ๆเย่เฉินก็ทำให้มีดสั้นในมือของฉันกลายเป็นผุยผง หรือว่า หรือว่าเขาจะไว้ชีวิตฉัน?!”
แต่ว่า ไม่นาน ว่านพั่วจวินก็สลดใจ “ฉันคงจะคิดมากไปแล้ว ฉันเสียมารยาทต่อพ่อแม่ของเย่เฉินขนาดนั้น เขาจะไว้ชีวิตฉันได้ยังไงกัน? ถ้าเปลี่ยนฉันให้เป็นเขา ฉันคงจะฆ่าตัวเองไปนานแล้ว…”
ในเวลานี้เย่เฉินพูดต่อว่า “ว่านพั่วจวิน นายต้องรู้ไว้ คนจะต้องตายอยู่แล้ว แต่เมื่อตายไปแล้วต้องพยายามให้มีคนจดจำไว้ ถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้”
“นักปราชญ์และทหารผู้เสียสละพวกนั้น ตายไปนับร้อยพันปี ก็ยังมีคนจดจำได้เสมอ นี่คือความหมายที่มากที่สุดที่คนเคยได้มีชีวิตอยู่”
“คนธรรมดาถึงแม้จะไม่สามารถเป็นนักปราชญ์หรือผู้เสียสละได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถทิ้งชื่อตัวเองไว้ในรายชื่อตระกูล ให้ลูกหลานสามารถจดจำไว้ ก็เหมือนกับตระกูลเย่ของฉัน รายชื่อตระกูลสืบทอดมานับร้อยปี บรรพบุรุษทุกท่านล้วนมีชื่อทิ้งไว้ในรายชื่อตระกูล นี่ ก็คือหลักฐานการเคยมีตัวตนอยู่ของพวกเขา และถ้าหากตระกูลเย่ของฉันรุ่งโรจน์ ชื่อของพวกเขาก็จะไม่มีทางถูกผู้คนลืมเลือน!”
พูดถึงนี่ เย่เฉินมองไปยังว่านพั่วจวิน พูดนิ่งๆว่า “แต่ว่า ถ้าหากนายตายไปวันนี้ ชื่อของพ่อแม่นาย ก็จะถูกกลบลงดินพร้อมกับนาย!”
“บางทีนายที่เป็นประมุขของสำนักว่านหลง หลังจากตายไปหลายสิบปี ก็ยังมีคนจดจำนายได้ แต่ใครจะจดจำพ่อแม่นายได้ละ? พวกเขาก็จะถูกทอดทิ้งไปในสายน้ำของประวัติศาสตร์ และไม่ถูกใครนึกขึ้นได้อีกต่อไป ไม่น่าเศร้าหรอ?”
วินาทีนี้ว่านพั่วจวินละอายใจจนถึงที่สุดแล้ว!
เดิมที เขาได้เตรียมใจตายไปอย่างละอายแล้ว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่า ถ้าหากตัวเองตายไปอย่างนี้ ตายไปก็ไม่มีหน้าไปหาพ่อแม่รวมทั้งบรรพบุรุษตระกูลว่าน!
ฟังคำพูดพวกนี้ของเย่เฉิน สำหรับเขาแล้ว เป็นการทำร้ายจิตใจกันชัดๆ!
ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากกว่าการตายเป็นหมื่นเท่า!
เดิมที เขายังคิดว่าการตายเป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง และเป็นการไถ่ถอนตัวเองอย่างหนึ่ง
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ก็คือทำลายความเชื่อมั่นของคนๆนี้ทิ้งไปให้จนหมด!
นายรู้สึกว่านายเก่งไม่ใช่หรอ? แล้วกำลังของฉันยังสามารถบีบบังคับให้นายตัดเส้นลมปราณเองทั้งที่ยังไม่สู้ด้วยซ้ำ!
นายคิดว่าตัวเองพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่หรอ ตายไปก็สามารถพ้นทุกข์ได้? งั้นฉันจะให้นายรู้ ว่าการตายถึงจะเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด เสียใจที่สุด พ่ายแพ้ที่สุด และอ่อนแอที่สุด!
กดดันนายจนหมดหนทาง ความอวดดีและมั่นใจทั้งหมดของนาย ถึงจะหายไปจนหมด
นั่นก็คือการฝึกฝนมาอย่างดี! ฝึกฝนซ้ำๆ ทำลายแล้วสร้างใหม่ซ้ำๆ ถึงจะสามารถสร้างให้เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งได้!
ฉะนั้น เย่เฉินจึงโบกมือให้กับว่านพั่วจวิน พูดนิ่งๆว่า “ช่างเถอะ! ฉันเพิ่งรับช่วงต่อปัญหาต่างๆของตระกูลเย่ อนาคตก็ขาดลูกน้องอยู่ ในเมื่อนายมีความคิดนี้ ฉันสามารถไว้ชีวิตนาย ให้โอกาสนายได้กตัญญู แต่นายกับทุกคนในสำนักว่านหลง จะต้องซื่อสัตย์เชื่อฟังฉัน! ชีวิตนี้ ห้ามขัดคำสั่งใดๆของฉัน!”
พูดจบ เย่เฉินก็มองไปยังวานพั่วจวินรวมทั้งพลทหารสำนักว่านหลงที่อยู่ด้านหลังเขา พูดเสียงเข้มว่า “พวกนาย ยินดีมั้ย?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...