จากนั้น เย่เฉินก็พูดกับเหอหงเซิ่งว่า “คุณท่านเหอ รบกวนพวกคุณจับตาดูทุกคนในตระกูลเย่ให้หน่อยนะครับ หากว่าใครกล้าแอบโยนอะไรทิ้งไป โดยเฉพาะของสิ่งของประเภทชุดไว้ทุกข์ ก็จับมัดไว้ให้ผมได้เลยครับ!”
คนส่วนมากของตระกูลเย่เมื่อได้ยินอย่างนี้ ก็ตกใจหวาดกลัวในทันที
เพราะว่าในเสื้อผ้าของพวกเขา ตอนนี้ยังมีชุดไว้ทุกข์อยู่ด้านใน เมื่อกี้ที่เย่เฉินจัดการสำนักว่านหลงนั้นมันน่าตื่นเต้นเกินไป คนพวกนี้จึงลืมเรื่องชุดไว้ทุกข์กันไปหมด
เมื่อถูกเย่เฉินพูดย่างนี้ ถึงได้นึกขึ้นได้ว่าบนตัวยังมีระเบิดอยู่
คนพวกนี้ตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที ไม่รู้ว่าเย่เฉินเตรียมจะจัดการพวกเขายังไง
เวลานี้ เย่เฉินไม่ได้สนใจคนตระกูลเย่อีก แต่หันไปมองพลทหารสำนักว่านหลงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า
ภายในกลุ่มพลทหาร ยังมีตาแก่ที่ตัวสั่นรวมอยู่ด้วย ตาแก่นี้ถึงแม้จะคุกเข่าอยู่บนพื้นเหมือนกัน แต่ก็เอาแต่มองซ้ายมองขวา เหมือนว่ากำลังหาโอกาสหนี
คนๆนี้ นั่นก็คือผู้นำตระกูลของตระกูลซู ซูเฉิงเฟิง
ซูเฉิงเฟิงในตอนนี้รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด บ่นในใจว่า “รู้อย่างนี้แต่แรกว่าว่านพั่วจวินนี้จะต้อยต่ำต่อหน้าเย่เฉินขนาดนี้ ใครเชิญฉันมาภูเขาเย่หลงซาน ฉันก็ไม่มีทางมาเด็ดขาด….”
“ปรากฏว่าไงละ กูแม่งใส่ชุดไว้ทุกข์มาแต่ไกล ปรากฏว่ามาโดดลงกองไฟเองซะงั้น….”
“ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ไม่รู้ว่าจะหาโอกาสแบบหนีออกไปได้มั้ย…”
ในตอนที่ซูเฉิงเฟิงกำลังหดหู่อย่างที่สุด เย่เฉินชี้คนที่ใส่ชุดไว้ทุกข์คุกเข่าอยู่ในกลุ่มผู้คน พูดนิ่งๆว่า “ซูเฉิงเฟิง หมาแก่อย่าได้คิดจะแอบหนีไปละ คุกเข่าให้ดีๆ ฉันยังมีบัญชีที่ต้องค่อยๆคิดกับแกอยู่!”
“เข้าใจผิด?” เย่เฉินถาม “เวลาอย่างนี้แล้ว นายยังพยายามโต้แย้งอีก ฉันดูแล้วสมองของผู้นำตระกูลซูอย่างนายก็ไม่ฉลาดนี่นา!”
ซูเฉิงเฟิงมีใจอยากจะตายขึ้นมาแล้ว ในใจบ่นว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องความฉลาดของฉัน แต่เป็นเพราะฉันไม่มีเหตุผลที่ดีอะไรจริงๆ…”
เย่เฉินเห็นว่าสีหน้าของเขาดูไม่ดี จึงได้ชี้พลทหารสำนักว่านหลงที่อยู่ข้างกายซูเฉิงเฟิง พูดอย่างเย็นชาว่า “นาย ตบหน้าเขาแรงๆ!”
“รับทราบครับ!” คนๆนั้นพูด แล้วจับคอเสื้อของซูเฉิงเฟิง แล้วก็ตบหน้าซ้ายขวาไปมาหลายที
ซูเฉิงเฟิงเคยโดนแบบนี้ที่ไหนกัน จึงได้ตะโกนออกมาว่า “ฉันเป็นผู้นำตระกูลซู!เป็นยอดนักธุรกิจของโลก!เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก!พวกนายเสียมารยาทกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง!”
เย่เฉินยิ้มเยาะทีหนึ่ง พูดนิ่งๆว่า “ผู้นำตระกูลซู? ขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้นายใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...