ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3302

ตอนที่เย่เฉินต่อเส้นลมปราณเส้นที่สี่ของว่านพั่วจวินเสร็จ เหอหงเซิ่งก็มองผลการฝึกฝนของว่านพั่วจวินไม่ออกแล้ว

ณ ที่แห่งนั้นผู้ที่ยังสามารถมองผลการฝึกฝนของว่านพั่วจวินออก ก็เหลือเพียงนายพลห้าดาวของสำนักว่านหลงไม่กี่คนเท่านั้น

ส่วนเศษเหล็กอย่างลู่เห้าเทียนกับเฉินจงเหล่ยสองคนนี้ เวลานี้ได้ยอมปล่อยมือโดยสมบูรณ์แล้ว

และพอเส้นลมปราณเส้นที่ห้าของว่านพั่วจวินถูกต่อเข้าด้วยกัน คนในที่แห่งนั้นนอกจากเย่เฉินแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมองผลการฝึกฝนที่แท้จริงของเขาในปัจจุบันออกอีก

เพียงเวลาสั้นๆ เส้นลมปราณที่เหลือของว่านพั่วจวินก็ถูกต่อเข้าด้วยกันทีละเส้นๆ

เส้นลมปราณทั้งแปดเส้นที่ตนรู้สึกว่าขาดสะบั้นเมื่อสักครู่ ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยสมบูรณ์แล้ว

และสิ่งที่ทำให้ว่านพั่วจวินจินตนาการไม่ถึงคือ เส้นลมปราณแปดเส้นของตนจะถึงกับโชคดีในโชคร้าย หลังจากที่แต่ละเส้นต่อเข้าด้วยกันก็บรรลุถึงสภาวะแดนสว่างชั้นสูงสุด

ว่านพั่วจวินในตอนนี้ ไม่ใช่นักบู๊แปดดาวคนหนึ่งอีกต่อไป เขาได้เข้าสู่ดินแดนสว่างชั้นสูงสุดไปแล้ว

อาจารย์ของเขา จากนักบู๊แปดดาวมาถึงแดนสว่างชั้นสูงสุด ใช้เวลาสิบกว่าปี

แต่เมื่อเขาอยู่ภายใต้การช่วยเหลือของเย่เฉิน กลับใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที!

พริบตาก็เลื่อนขั้นอย่างมโหฬารขนาดนี้ ทำให้ภายในใจเขาหวาดหวั่นเหลือจะกล่าว ถึงขั้นที่ว่ามีความรู้สึกราวกับอยู่อีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

หากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าบนโลกใบนี้จะถึงกับยังมีความสามารถที่แข็งแกร่งขนาดนี้

เขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่เย่เฉินใช้ มันเป็นพลังชนิดหนึ่งที่มหัศจรรย์และแข็งแกร่งกว่าพลังภายในมากมายนัก

นี่ทำให้เขาคิดถึงคำพูดที่อาจารย์ตนเคยพูดในปีนั้น เขาบอกว่าบนโลกใบนี้ นักบู๊เป็นเพียงผู้ที่มีพลังขั้นต่ำที่สุดที่อยู่เหนือคนทั่วไปเท่านั้น

ที่อยู่เหนือกว่านักบู๊ ยังมีระบบพลังที่อยู่เหนือและห่างชั้นกว่าศิลปะการต่อสู้มากมายนัก นี่สำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วเป็นไปได้มากว่าตลอดชีวิตอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสมัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน