พอเย่เฟิงได้ยินเช่นนี้ ก็ตกใจจนเหงื่อเย็นเต็มแผ่นหลัง จึงรีบใช้แรงโขกศีรษะครั้งต่อไปมากขึ้นกว่าเดิม เจ็บเสียจนกัดฟันกรอด!
เย่เฉินหันมองไปทางเย่โจงฉวน ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “คุณปู่ครับ ปัจจุบันกิจการแต่ละอย่างของตระกูลเย่ แบ่งให้คนไหนรับผิดชอบบ้าง?”
เย่โจงฉวนกล่าวว่า “ธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักของตระกูลเย่ โดยพื้นฐานล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของทีมผู้จัดการ ตอนแรกพ่อเธอเป็นห่วงว่าสมาชิกในตระกูลจะไม่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นจึงยืนกรานจะก่อตั้งทีมผู้จัดการมืออาชีพระดับหัวกะทิขึ้นมาแผนกหนึ่ง ในบรรดาคนเหล่านี้ สมาชิกพื้นฐานที่ธรรมดาที่สุด ส่วนใหญ่แล้วล้วนมาจากโรงเรียนธุรกิจของโรงเรียนชั้นนำแต่ละแห่ง ส่วนสมาชิกในระดับกลางและสูงล้วนมาจากธุรกิจทำเงินห้าร้อยแห่งของโลก หรือสถาบันลงทุนชั้นนำ”
“นอกจากนี้ พวกเรายังมีทีมทนายความอัจฉริยะที่เป็นมืออาชีพอย่างมากอีกทีมหนึ่ง รับผิดชอบงานด้านกฎหมายทั้งหมดของตระกูลเย่”
“อ้อ จริงสิ นอกจากสองทีมนี้แล้ว ยังมีทีมไว้ใจได้อีกทีมหนึ่ง รับผิดชอบโดยนำเงินสดส่วนนั้นที่ตระกูลใช้ไม่ได้ปล่อยให้กับบุคคลที่ไว้ใจได้ของตระกูลทำการลงทุนและบริหารจัดการ”
เย่เฉินชี้ไปยังแถวคนเหล่านั้นที่โขกศีรษะอยู่บนพื้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “คนกลุ่มนี้ไม่ทำอะไรเลยเหรอ?”
เย่โจงฉวนส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “หากตระกูลเย่มอบให้พวกเขารับผิดชอบจริง เกรงว่าคงจบเห่ไปนานแล้ว! พวกเขาแต่ละคนต่างนั่งอยู่ในตำแหน่งลอยๆ มีรองประธาน รองผู้จัดการ ผู้จัดการ แต่การบริหารและวางแผนงานในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องให้พวกเขารับผิดชอบ แผนงานเล็กมีภายในของทีมผู้จัดการเป็นผู้ตัดสินใจ แผนงานใหญ่โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นฉันที่ตัดสินใจ แต่ต่อไปคงต้องให้เธอเป็นคนตัดสินใจเองแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวเรียบๆ ว่า “ในเมื่อคนกลุ่มนี้แท้จริงแล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไร งั้นก็ย้ายออกไปจากเย่ซื่อกรุ๊ปเลยเถอะ เมื่อตาไม่เห็นก็ไม่รบกวนจิตใจ”
เย่ฉางโคงที่โขกศีรษะจนจวนจะสลบไปนั้นพอได้ยินเช่นนี้ ก็พลันลุกขึ้นถามโพล่งออกมาทันที “เย่เฉิน......เธอ......เธอต้องการย้ายพวกเราไปที่ไหน?!”
เย่เฉินกล่าวว่า “วางใจ ไม่มีทางให้พวกคุณไปไหนไกล”
พูดเสร็จ เย่เฉินก็กล่าวอีกว่า “พวกคุณชอบสวมชุดไว้ทุกข์ไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อมีใจกตัญญูแบบนี้ งั้นผมก็จะบอกให้คนสร้างบ้านไม้ง่ายๆ สักสองสามหลังให้พวกคุณอยู่ที่ใต้เชิงเขาของภูเขาเย่หลิงซาน หนึ่งในพวกคุณ ทั้งหมดที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไป หรือไม่ได้เรียนหนังสืออีกแล้ว ไม่ว่าคนไหนก็ตามให้รั้งอยู่ที่นี่ไว้ทุกข์ให้กับบรรพบุรุษตระกูลเย่เป็นเวลาสามปี!”
เย่เฟิงร้องโหยหวน ล้มลงไปนั่งแน่นิ่งอยู่กับพื้น
เย่ฉางโคงสงสารลูกชาย แต่ก็สงสารตัวเองเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงรีบร้อนถามว่า “เธอให้พวกเราไว้ทุกข์ให้บรรพบุรุษอยู่ที่นี่สามปี แล้วค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ของพวกเราจะทำยังไง?”
เย่เฉินกล่าวเรียบๆ ว่า “ค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ของพวกคุณ ผมจะให้คนนำมาส่งให้พวกคุณที่นี่ตามกำหนด”
เย่ฉางโคลถามอีกว่า “งั้น.......งั้นหากป่วยล่ะ?
เย่เฉินกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ถ้าป่วย ผมจะจัดหาหมอของโรงพยาบาลตระกูลเย่มารักษาให้พวกคุณถึงหน้าประตู! หากใครในพวกคุณป่วยหนัก ต้องเข้ารับการผ่าตัด รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ผมก็จะสร้างโรงพยาบาลสนามสักหนึ่งแห่งให้พวกคุณที่ใต้เชิงเขาเย่หลิงซาน! สรุปว่า อนาคตอีกสามปี ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา หากไม่ได้รับอนุญาตจากผม พวกคุณก็ไม่อาจไปจากภูเขาเย่หลิงซานได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...