หากคนกลุ่มนี้ไม่แอบไปซื้อชุดไว้ทุกข์เมื่อคืน เย่เฉินคงไม่สามารถกำจัดพวกเขาทั้งหมดอย่างชอบด้วยเหตุผลเช่นนี้
ตอนนี้ดีเลย ตอนที่เย่เฉินกำลังหาวิธีดีๆ ที่จะไล่พวกเขาออกไปจากตระกูลเย่ไม่ได้ พวกเขาแต่ละคนก็เป็นฝ่ายส่งตัวเองมาเยือนหน้าประตูเสียเอง
นี่ ยอดเยี่ยมไม่ต่างกับที่ว่านพั่วจวินเป็นฝ่ายมาเยือนหน้าประตูเลย
เวลานี้ เย่ฉางหมิ่นมองเย่เฉินอย่างตกใจกลัวสุดขีด ถามด้วยความตึงเครียดอย่างไม่สบายใจ “เฉินเอ๋อ......แล้ว......แล้วอาล่ะ......ดีร้ายอย่างไรอาก็เป็นคนแรกที่ยอมรับผิด......เมื่อกี้เธอเองก็บอกแล้วว่าจะให้โอกาสลดโทษอาหนึ่งครั้ง......”
“แน่นอนครับ” เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ในบรรดาคนทั้งหมด คุณเป็นคนที่แสดงท่าทางยอมรับผิดดีที่สุด และเป็นคนที่ยอมรับผิดเร็วที่สุด ดังนั้นหนนี้ย่อมต้องปราณีต่อคุณ”
กล่าวจบ เย่เฉินก็เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวอีกว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณรั้งอยู่ที่นี่ไว้ทุกข์พร้อมกับพวกเขาสักสามวัน หลังจากครบสามวันก็กลับตระกูลเย่คอยดูแลคุณปู่ให้ดี”
พอเย่ฉางหมิ่นได้ยินเช่นนี้ น้ำตาอุ่นๆ สองสายก็ไหลออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างแท้จริง
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า เย่เฉินจะถึงกับให้อภิสิทธิ์ตนมากถึงขนาดนี้จริงๆ
ผู้อื่นสามปี ตนเพียงแค่สามวัน!!!
เย่ฉางหมิ่นในยามนี้ มองเย่เฉินเป็นพระเยซูไปโดยสมบูรณ์แล้ว จึงพูดตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง กระทั่งน้ำเสียงก็ยังสั่นเทาเล็กน้อย “เฉิน......เฉินเอ๋อ......ขอบใจนะ......ขอบใจเธอที่ปรานีอา......เธอวางใจ.....ต่อไปอาจะต้อง......จะต้องกลับเนื้อกลับตัว ทำตัวเป็นคนใหม่อย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง
ทว่าไม่ใช่เพราะเขาคิดห่วงใยเย่ฉางหมิ่นจริงๆ แต่เป็นเพราะในเวลาเช่นนี้ ก็ต้องสร้างความแตกต่างที่ใหญ่โตชนิดหนึ่งให้ผู้อื่นบ้าง
ที่เรียกว่าใครยอมตามฉันก็จะรุ่งเรือง ใครขัดขืนฉันก็จะดับสูญ
หนึ่งรุ่งเรือง หนึ่งดับสูญ ถึงจะเป็นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุด
นี่ก็เป็นสัญญาณที่เด่นชัดอย่างหนึ่งที่มอบให้กับคนกลุ่มนี้ของตระกูลเย่
เพื่อจัดงานไหว้บรรพบุรุษให้ดี แต่ละครั้งเย่เฉินล้วนเชิญผู้กำกับมืออาชีพรวมถึงทีมนักเต้น คอสตูม อุปกรณ์การแสดง นักแสดง เครื่องเสียง ไม่มีอันไหนไม่สุดยอด
แต่วันนี้ สมาชิกนักแสดงทั้งหมดที่ตกลงกันก่อนหน้านี้ กลับไม่มีใครมาสักคน
ทุกคนต่างรู้กันว่าวันนี้ตระกูลเย่จะประสบกับหายนะ ทุกคนจึงหลบเลี่ยงกันแทบไม่ทัน
อย่าว่าแต่นักแสดงที่ใช้เงินจ้างเหล่านี้เลย แม้แต่สมาชิกสาขาของตระกูลเย่เจ็ดร้อยกว่าคนเหล่านั้น ก็ยังหนีหายกันไปหมด เหลือเพียงเย่โจงจั่วเพียงคนเดียว
ดังนั้น งานไหว้บรรพบุรุษในครั้งนี้ จึงทำได้เพียงข้ามขั้นตอนที่ไม่สำคัญไปอย่างช่วยไม่ได้
พิธีการ เต้นรำ ร้องเพลง ดนตรีทั้งหมดล้วนละเว้นไว้ ที่เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือพิธีเซ่นไหว้ที่คนตระกูลเย่ดำเนินการด้วยตัวเอง
เย่โจงฉวนหยิบบทกล่าวไว้อาลัยที่ตนเขียนไว้หลายวันตลอดทั้งคืนออกมา ทางหนึ่งน้ำตาไหล ทางหนึ่งทอดถอนใจว่า “บทกล่าวไว้อาลัยนี้ เนื้อหาทั้งหมดที่เขียนคือความรุ่งเรืองของคนตระกูลเย่ สามัคคีกลมเกลียว เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ฉันเป็นคนเตรียมนำมาบอกกล่าวแก่บรรพบุรุษตระกูลเย่......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...