พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็มองไปยังโครงหน้าอันหล่อเหลาของบิดาในภาพถ่าย ก่อนจะสะอื้นไห้กล่าวว่า “พ่อ......ผมรู้ว่าปีนั้นพ่อคิดจะทำให้ตระกูลเย่รุ่งเรื่องมาตลอด ทำให้ตระกูลเย่ตั้งตระหง่านอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ในตอนนี้ ลูกตัดสินใจแล้วว่าจะแบกความคิดในปีนั้นของพ่อขึ้นมา สักวันหนึ่งจะตัองทำให้ตระกูลเย่กลายเป็นตระกูลที่สุดยอดที่สุดของโลกให้ได้!”
กล่าวจบ เย่เฉินก็มองไปที่ภาพถ่ายของมารดาอีกครั้ง พร้อมกล่าวอย่างละอายใจว่า “แม่......พวกเขาต่างแนะนำผมว่าควรไปลองพบคุณตาคุณยายดู ผมเชื่อว่าแม่เองก็ต้องหวังให้ผมไปเยี่ยมพวกเขาเช่นกัน เพียงแต่ผมกับคุณตาคุณยายพบปะกันน้อยมากจริงๆ อีกทั้งตอนนี้แม่เองก็ไม่อยู่แล้ว ผมไม่รู้จริงๆ ว่าควรไปเผชิญหน้ากับพวกเขาสองตายายอย่างไรดี ดังนั้นเรื่องนี้อาจยังไม่มีวิธีทำให้สำเร็จได้ชั่วคราว จึงหวังว่าแม่จะให้อภัย......”
หลังจากนั้น เย่เฉินก็ก้มตัวลงไป โขกศีรษะสามครั้งตรงหน้าป้ายหลุมศพของบิดามารดา
ต่อมา เขาก็กล่าวขึ้นอีกว่า “พ่อครับ แม่ครับ วันนี้ลูกจะอยู่เป็นเพื่อนท่านทั้งสองให้มากหน่อย พรุ่งนี้ผมอาจจะต้องกลับจินหลิงแล้ว ตอนนี้ลูกยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยฐานะ จึงไม่ควรรั้งอยู่ที่เย่นจิงนาน แต่ต่อไปผมจะเจียดเวลามาเยี่ยมพวกท่านที่นี่บ่อยๆ ......”
กล่าวจบ เย่เฉินก็กล่าวอีกว่า “พอถึงตอนที่ลูกเปิดเผยฐานะต่อคนทั้งโลกอย่างเป็นทางการแล้ว ลูกจะต้องพาลูกสะใภ้ของพวกท่านทั้งสองมาที่นี่ด้วยกันอย่างแน่นอน และให้พวกท่านเห็นอีกครึ่งของลูก ทำให้พวกท่านวางใจ”
พูดมาถึงตรงนี้ ในใจเย่เฉินก็ห่อเหี่ยวอย่างยิ่ง น้ำตาเองก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไร้สุ้มเสียงเช่นกัน
ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนั้น เย่เฉินก็ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่คุกเข่ายืดตัวตรงต่อหน้าวิญญาณของพ่อแม่อย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยคำใด
คนตระกูลเย่ทำได้เพียงมองเห็นแผ่นหลังอันโดดเดี่ยวของเขาจากเบื้องล่าง ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มที่ปราบสำนักว่านหลง ทั้งยังอาศัยกำลังเพียงคนเดียว ทำการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจของราชวงศ์ยุโรปเหนือได้เมื่อสักครู่ผู้นี้ จะกำลังหลั่งน้ำตาต่อหน้าหลุมศพของบิดามารดา
หลายชั่วโมงให้หลัง สมาชิกตระกูลย่อยส่วนใหญ่ ล้วนคุกเข่าเดินทางมาถึงด้านล่างประตูโค้งบนภูเขาแล้ว
พอเห็นว่าสมาชิกสายตรงตระกูลเย่ก็คุกเข่าอยู่ที่นี่เช่นกัน แต่ละคนต่างตกตะลึงพรึงเพริดอยู่บ้าง
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเข้าใจว่าเพราะอะไรสมาชิกสายตรงก็คุกเข่าอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขาก็ถูกทหารของสำนักว่านหลงตวาดจนพากันทยอยคุกเข่าลงอีกครั้ง
“นอกจากนี้ สมาชิกตระกูลย่อยทั้งหมด ทุกๆ สามเดือนจะต้องมาเย่นจิงเพื่อเปิดประชุมรายงานหนหนึ่ง โดยรายงานสถานการณ์ทางด้านธุรกิจที่ผ่านมาสามเดือนต่อตระกูลหลักอย่างละเอียด เช่นเดียวกันห้ามมีใครขาดไปเด็ดขาด! ทุกคนฟังเข้าใจหรือไม่?!”
ในมุมมองของเย่เฉิน ฟานอ๋องตระกูลย่อยเหล่านี้ของตระกูลเย่ ทุกสิบสองปีถึงจะมาที่นี่เพื่อเข้าเฝ้าหนึ่งครั้ง ความถี่เช่นนี้มันน้อยเกินไปจริงๆ และเพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่มีความภักดีอะไรต่อตระกูลเย่โดยสิ้นเชิง ตระกูลเย่เองก็ไม่มีกำลังควบคุมพวกเขาอย่างแท้จริงเช่นกัน
ทว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ทุกอย่างจะต้องเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในที่สุด
ให้ทุกปีพวกเขามาเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ทุกสามเดือนมารายงาน จะต้องให้ตระกูลหลักนี้เน้นไปที่การควบคุมและเอาจริงเอาจังกับพวกเขา
หากนำตระกูลเย่เทียบกับระบบราชสำนัก ตอนนี้สิ่งที่เย่เฉินต้องทำ ก็คือการรวมอำนาจจะทำให้ศูนย์กลางแข็งแกร่งขึ้น การแบ่งอำนาจจะทำให้ศูนย์กลางอ่อนแอลง เอาฟานอ๋องที่แยกตัวกันไปแต่ละแห่งกลุ่มนี้ กุมเอาไว้ในมือให้แน่น!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...