นับตั้งแต่นาทีนั้นที่เย่เฉินตัดสินใจแบกรับเจตนารมณ์ของบิดา เขาก็ไม่ได้เตรียมความเกรงใจให้กับคนแซ่เย่คนใดอีก
เพราะว่าในใจเขาชัดเจนดี คนเหล่านี้ แม้จะเป็นครอบครัว แต่ก็เป็นศัตรู
เป็นองค์ชายนั้นง่าย แต่เป็นจักรพรรดินั้นยาก
เมื่อเป็นจักรพรรดิ แล้วยังคิดจะเป็นจักรพรรดิที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งไปพร้อมกัน ก็ต้องเจอกับข้อผูดมัดระหว่างการละทิ้งครอบครัว
นับแต่นาทีที่ขึ้นครองราชย์ จะไม่มีพ่อกับลูกอีก ไม่มีแม่กับลูกอีก ไม่มีปู่กับหลานอีก ไม่มีพี่กับน้องอีก
ที่มี มีเพียงกษัตริย์และขุนนาง!
หนึ่งคนเป็นกษัตริย์!
และอีกหมื่นคนเป็นขุนนาง!
ดังนั้น สำหรับสมาชิกตระกูลย่อยกลุ่มนี้แล้ว เย่เฉินย่อมไม่มีทางเกรงใจ
ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ก็แค่คำพูดประโยคเดียว
ขอแกก็คือของฉัน ส่วนของฉัน ก็ยังคงเป็นของฉัน!
เขาเห็นว่าเย่ทาวอายุน้อยแค่นี้แต่สมองตื่นรู้ สายตาเฉียบแหลม ดังนั้นจึงเกิดความคิดจะให้เขารั้งอยู่ที่ตระกูลเย่
ต่อไปต้องร่วมมือกับเฮเลน่า ต้องอาศัยราชวงศ์ยุโรปเหนือเปิดประตูสู่ตลาดทวีปยุโรป จึงจำเป็นต้องได้คนที่มีมันสมองที่เข้าใจในทวีปยุโรปมากเป็นพิเศษสักคนมาทำด้วยตัวเอง
ซึ่งครอบครัวของเย่ทาวตั้งรกรากอยู่ที่ทวีปยุโรปมาหลายปีพอดี ถึงขั้นย้ายกิจการไปยังทวีปยุโรป จะต้องเข้าใจในนโยบายของยุโรปเป็นอย่างดีแน่
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ คนคนนี้ ฉันเย่เฉินต้องการ
แต่พอคิดถึงธุรกิจของครอบครัวตน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นพอดี อีกทั้งแม้ตนเองจะยังไม่ได้รับตำแหน่งประธานอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงกำลังทำหน้าที่ประธานบริษัทโดยสมบูรณ์แล้ว สามารถพูดได้ว่า ธุรกิจทั้งหมดของครอบครัวอาศัยตนเป็นคนดูแล
เขาจึงอดกลั้นความคิดที่จะสารภาพไว้อีกครั้ง
ได้แต่กล้ำกลืนน้ำตามองบิดา พร้อมกล่าวอย่างจริงจัง “พ่อครับ ที่บ้านมีผม พ่อวางใจได้เลย......”
เย่หงหยางเองก็พยักหน้าติดๆ กัน พลางกำชับว่า “พ่อรั้งอยู่ตระกูลหลักเพื่อรับใช้ตระกูลหลัก ถึงเวลาตำแหน่งประธานก็ฝากลูกมารับตำแหน่งด้วยแล้วกัน......”
พอพูดถึงตรงนี้ เย่หงหยางก็ถอนหายใจออกมา พลางทอดถอนใจว่า “เพียงแต่ตอนนี้ลูกอายุแค่นี้ ทั้งยังขาดประสบการณ์ รีบร้อนไล่เป็ดไปขึ้นคอนเช่นนี้ พ่อกังวลจริงๆ ว่าลูกจะทำธุรกิจได้ไม่ดี......”
เย่ทาวรีบถือโอกาสตามน้ำไปกับคำพูดของบิดา “พ่อ......พ่อวางใจ ผมจะทำอย่างสุดความสามารถ แม้ไม่กล้าพูดว่าจะนำพาบริษัทให้เจริญก้าวหน้า อย่างน้อยก็จะรักษามันไว้อย่างเต็มความสามารถ รอพ่อกลับมาดูแลภาพรวมอีกครั้ง......”
เย่หงหยางทอดถอนใจ “เฮ้อ! รับใช้ตระกูลหลัก เป็นหน้าที่ที่พ่อไม่อาจเลี่ยงได้ ดังนั้นตอนนี้นอกจากบีบให้ลูกเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ก็ไม่มีวิธีอะไรอย่างอื่นแล้วเช่นกัน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...