เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและคิดอยู่ในใจว่า “พวกคุณสองคนยังจะแสดงต่อหน้าผมอีก? แน่จริง ๆ”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขากระแอมและกล่าวกับเย่หงหยางว่า “มันเสี่ยงเกินไปที่จะมอบธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ของตระกูลให้กับเด็กหนุ่ม ถึงแม้ตระกูลหลักต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ แต่ก็ไม่สามารถทำให้พวกคุณละทิ้งธุรกิจของครอบครัวตนเองได้ เช่นนั้นดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลอย่างผมจะเห็นแก่ตัวเกินไป”
เมื่อเย่หงหยางและเย่ทาวสองพ่อลูกได้ยินเรื่องนี้ พวกเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าเย่เฉินกำลังจะเปลี่ยนความคิด
เย่หงหยางไม่กล้าเปิดเผยออกมา และคิดที่จะแสดงอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงรีบกล่าวว่า “ผู้นำตระกูล เวลาเช่นนี้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะละทิ้งธุรกิจเล็ก ๆ และปกป้องธุรกิจใหญ่ของตระกูล เรื่องนี้พวกเราทุกคนสามารถเข้าใจได้...... ”
เย่เฉินโบกมือและกล่าวว่า “ทำเช่นนั้นมันไม่เหมาะสม”
หลังจากนั้น ดวงตาของเขาประกายขึ้นทันที และกล่าวโพล่งออกมาว่า “ผมมีวิธีที่ดี!”
เย่หงหยางรีบถามว่า “ผู้นำตระกูล คุณมีวิธีอะไร?”
เย่เฉินชี้เย่ฉางโคงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นท่ามกลางฝูงชน และกล่าวว่า “เย่ฉางโคงลุงใหญ่ของผม เป็นลูกชายคนโตของตระกูลเย่ มีความสามารถเป็นอย่างมาก ให้เขาไปบริหารธุรกิจครอบครัวให้พวกคุณดีกว่า แล้วคุณกับลูกชายก็ทำงานให้กับตระกูลหลักอยู่ในหัวเซี่ย มีลุงใหญ่ของผมบริหารธุรกิจให้พวกคุณ ไม่แน่อีกสองสามปี ธุรกิจครอบครัวของพวกคุณจะกลายเป็นบริษัทที่ติดอันดับหนึ่งในห้าร้อยของโลกก็ได้ พวกคุณทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ใช่ไหม? ผมให้เวลาลุงใหญ่สามปี และมั่นใจว่ามูลค่าตลาดของพวกคุณจะแซงหน้าอิเกียของสวีเดนไปอย่างแน่นอน”
เย่ฉางโคงรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคนี้
“ผมมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ? แม่งฉิบหาย ผมฟังจนเกือบจะเชื่อตนเองแล้ว.....”
เย่หงหยางและเย่ทาวต่างมีความคิดอยากจะตาย
เย่หงหยางด่าแช่งอยู่ในใจ “ถ้าเย่ฉางโคงมีความสามารถขนาดนั้น แล้วทำไมคุณถึงไม่ให้ความสำคัญกับเขา แล้วยังมอบเขาให้กับพวกเรา? ถ้าคนโง่เขลาเช่นนี้รับผิดชอบบริหารธุรกิจของครอบครัวพวกเราจริง ๆ ไม่ต้องใช้เวลาสามปีธุรกิจของครอบครัวพวกเรานั้นล้มละลายอย่างแน่นอน...”
เย่ทาวเองก็รู้สึกหดหู่มากเช่นกัน คิดอยู่ในใจว่า “ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ใช่ผู้ประกอบการชั้นนำ แต่อย่างน้อยเขาก็ทำงานในธุรกิจนี้มาหลายปีแล้ว เขามีประสบการณ์และสุขุมเยือกเย็น และแม้ว่าเขาจะไม่ชอบการปฏิรูป อย่างน้อยก็ยังสามารถรักษาขนาดของธุรกิจครอบครัวไว้ได้......แต่ถ้าเปลี่ยนให้เย่ฉางโคงมาบริหารแทน เขาคงจะทำลายธุรกิจครอบครัวของพวกเราไปอย่างสมบูรณ์”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่ทาวจึงรีบกล่าวว่า “ผู้นำตระกูล.....ธุรกิจขนาดเล็ก ๆ ของพวกเรา จะไปรบกวนคุณลุงฉางโคงผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร? ถ้าให้เขาไปดูแลโรงงานเล็ก ๆ ของพวกเรา มันจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน และเสียเปล่า........ ”
เย่เฉินโบกมืออย่างไม่แยแสและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่เสียเปล่าเลยสักนิด เพราะพวกเรามีฐานะที่จะทำเช่นนั้นได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...