คืนนั้น สองมือของหม่าหลันไม่ห่างออกจากทองแท่งที่เย่เฉินให้เธอเลย
ทว่าเนื่องจากโปรเจกต์โรงแรมตี้เหาเข้าสู่ช่วงสำคัญ ทำให้เซียวชูหรันยุ่งกับงานมากๆ ในสองสามวันนี้
เย่เฉินกลับมาแล้ว จึงออกตัวรับผิดชอบไปรับไปส่งเธอไปทำงาน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เย่เฉินส่งเซียวชูหรันไปยังไซต์งานก่อสร้างโรงแรมตี้เหา จากนั้นก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินจื๋อข่าย
ในสายโทรศัพท์ เฉินจื๋อข่ายบอกเขาว่าว่านพั่วจวินได้พาทหารของสำนักว่านหลงนับร้อยนายมาที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงแล้ว
เย่เฉินได้ยินดังนั้น จึงถามเฉินจื๋อข่ายว่า: “เหล่าเฉินให้คนออกจากตึกอำนวยการหมดแล้วหรือยัง?”
เฉินจื๋อข่ายรีบตอบ: “เรียนคุณชาย จัดการเรียบร้อยข้ามคืนเลยครับ ห้องแต่เดิมก็ชดเชยให้เป็นค่าห้องสองเท่า จัดการให้พวกเขาไปที่ตึกอื่น”
“ถ้างั้นก็ดี” เย่เฉินเอ่ยกำชับด้วยความพึงพอใจ: “เอาแบบนี้นะ ให้ว่านพั่วจวินและพวกไปรอฉันที่ห้องบรรยายในตึกอำนวยการก่อน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“ได้ครับคุณชาย!”
ตึกอำนวยการของโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง เดิมทีก็มีไว้เพื่อบริการงานเลี้ยงอาหารค่ำธุรกิจขนาดใหญ่รวมถึงงานประชุมธุรกิจระดับสูงอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่มีห้องพักสุดหรูจำนวนมาก ทั้งยังมีห้องบรรยายขนาดใหญ่รวมทั้งห้องประชุมมากมายอีกด้วย
ในนั้น ขนาดของห้องบรรยายเพียงพอที่จะจัดงานแถลงในอาคารที่สามารถบรรจุคนได้นับพันสองพัน
การที่เย่เฉินให้เฉินจื๋อข่ายนำคนออกจากตึกอำนวยการจนหมด ก็เพราะวางแผนว่าจะใช้เป็นฐานตั้งสำนักงานใหญ่สำนักว่านหลงในประเทศ
เมื่อขับรถมาถึงโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง เฉินจื๋อข่ายก็รออยู่นอกห้องโถงใหญ่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นเย่เฉินมาถึง ก็เข้าไปเปิดประตูรถให้เขา พร้อมทั้งพาเขามาที่ห้องบรรยายในตึกอำนวยการ
เย่เฉินมองไปยังว่านพั่วจวิน ถามเขาว่า: “เรื่องงานศพของพ่อแม่นายจัดการเป็นยังไงบ้าง?”
ว่านพั่วจวินเอ่ยตอบเย่เฉินด้วยสีหน้าที่ซาบซึ้งน้ำใจ: “เรียนคุณเย่ หลังจากได้รับการเห็นใจและสนับสนุนจากคุณ โลงศพของพ่อแม่กระผมได้ทำการฝังใหม่ที่ภูเขาฝั่งตะวันตกเมืองเย่นจิงเมื่อวานนี้แล้ว ขอบคุณสำหรับความใส่ใจของคุณด้วย!”
เย่เฉินพยักหน้ารับทราบ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า: “ในเมื่อพ่อแม่ของนายได้ถูกฝังใหม่แล้ว อนาคตก็ไม่ต้องคิดหนักเรื่องพวกท่านแล้ว และทุกปีวันเชงเม้งก็อย่าลืมมาสักการะที่สุสานพวกเขาด้วยล่ะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจ เอ่ยอย่างเศร้าสร้อยเล็กน้อยว่า: “อันที่จริงสถานการณ์ของฉันกับนายเหมือนกันมาก เกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา เพราะปัญหาสถานะของตัวเอง ทำให้ฉันไม่สามารถกลับไปสักการะสุสานพ่อแม่ได้ ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ฉันรู้สึกละอายใจและโทษตัวเองมาก เชื่อว่าความรู้สึกแบบนี้นายเองก็คงรับรู้ได้ หวังว่าในอนาคตนายจะพยายามชดเชยเต็มที่นะ”
ว่านพั่วจวินพยักหน้าหงึกๆ เอ่ยด้วยความละอายใจว่า: “คุณเย่พูดถูก กระผมอยู่ต่างประเทศหลายปี วันเชงเม้งและวันครบรอบวันเสียชีวิตของพ่อแม่ทุกปี ก็จะรู้สึกทรมานและโทษตัวเองมาก อนาคตจะต้องไม่ทำผิดแบบเดิมอีกแล้วเด็ดขาด”
เย่เฉินพูด “อืม” แล้วถามเขาว่า: “ทหารสำนักว่านหลงสองสามนายที่ฉันส่งไปยุโรปเหนือกลับมาหรือยัง?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...