ซัยยิตหยิบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมของตัวเอง ก้าวเดินออกจากห้องประชุมในภูเขา
ของฮามิด
เขาอยู่ในโทรศัพท์ และขอข้อคำชี้แนะต่อหัวหน้าของตัวเองตามสถานการณ์จริง
ร่วมกันในการป้องกันของสำนักว่านหลงช่วยเหลือในการฝึกฝนทหารและเงื่อนไขที่เป็นคนขออยู่อาศัยในเขตกันชนก่อน ทำให้หัวหน้าของซัยยิตพอใจเป็นอย่างมาก
เนื่องจากว่าสิ่งนี้สามารถที่จะเพิ่มระดับความปลอดภัยของพวกเขาได้ค่อนข้างดี ในเวลาเดียวกันก็สามารถบรรเทาความวิตกกังวลในปัจจุบันของพวกเขาได้อีกด้วย
แต่ค่าชดเชยหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และข้าวสาลีหนึ่งแสนตันต่อปี ก็ทำให้เขามีความยินดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ในนั้นยังมีเงื่อนไขมอบของขวัญ นั่นก็คือฮามิดเป็นกลางอย่างแท้จริง ตอนนี้ฮามิดอยู่ในฝ่ายค้าน ความสามารถรวมหลายสิ่งแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง ถ้าหากเขาสามารถทำได้ถึงขนาดไม่เป็นคนเริ่มโจมตีก่อน ถ้าอย่างนั้นความกดดันของกองกำลังรัฐบาลก็จะผ่อนคลายไม่น้อย
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจทางโทรศัพท์ในทันที และยอมรับเงื่อนไขของเย่เฉิน
ซัยยิตได้รับการอนุมัติแล้ว กลับไปที่ห้องประชุมอย่างมีความสุข แล้วพูดกับเย่เฉินและว่านพั่วจวินในทันทีว่า: “คุณเย่ คุณว่าน หัวหน้าของพวกเราตกลงตามเงื่อนไขเมื่อกี้นี้แล้ว ถ้าหากไม่มีปัญหาอื่น ก็เชิญทั้งสองท่านตามผมไปเซ็นข้อตกลงด้วยกันที่ดามัสกัส!”
เย่เฉินมองดูเวลา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ฉันยังต้องรีบกลับไปที่หัวเซี่ยก็ไม่ไปด้วยกันกับนายแล้ว”
จากนั้น เขาก็พูดกับว่านพั่วจวินว่า: “พั่วจวิน นายไปกำหนดรายละเอียดเงื่อนไขและจ่ายเงินเมื่อไหร่ จ่ายเงินยังไง อีกอย่างก็คือปล่อยคนเมื่อไหร่ สำหรับปัญหาอาหารนายก็ไม่ต้องเป็นห่วง ให้พวกเขาดูว่าท่าเรือไหนเหมาะสมที่จะรับสินค้า ถึงเวลานั้นฉันจัดการให้ผู้ขนส่งสินค้าส่งข้าวสาลีไปโดยตรง”
ว่านพั่วจวินรีบพูดว่า: “คุณเย่ เรื่องของอาหารจะรบกวนคุณได้ยังไง ผมมาจัดการดีกว่า!”
ขณะที่ในใจของทั้งสองตกใจเป็นอย่างมาก เย่เฉินพูดกับว่านพั่วจวินว่า: “นายนั่งเครื่องบินตรงไปที่ดามัสกัสพร้อมกับซัยยิตนะ ฉันกับพี่ฮามิดคุยกันไม่กี่คำก็ตรงไปที่เบรุต”
ว่านพั่วจวินกล่าวอย่างเคารพ: “ได้ครับคุณเย่! งั้นผมก็ขอลาก่อน!”
ซัยยิตถึงได้ดึงสติกลับมา แม้ว่าในใจจะมีคำถามมากมายอยากถามเย่เฉิน แต่ในใจของเขาก็รู้ดี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามคำถามเหล่านี้ ดังนั้นจึงเป็นคนพูดกับเย่เฉินก่อนว่า: “คุณเย่ งั้นผมไปที่ดามัสกัสก่อน ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมาโดยตลอด และหวังว่าจะได้เจอคุณครั้งหน้าอีก!”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม: “ได้ซัยยิต เจอกันครั้งหน้าใหม่!”
เย่เฉินกับฮามิดส่งทั้งสองไปที่ประตู และมองตามเฮลิคอปเตอร์ของทั้งสองคนบินขึ้นไป ฮามิดถึงได้อุทานว่า: “ศิษย์น้องเย่ นายทำให้คนแปลกใจมากเกินไปแล้ว……สำนักว่านหลงมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำไมจู่ๆก็กลายเป็นลูกน้องของนายได้?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...