เมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะสุดท้าย ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของผู้ป่วย ก็อาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เนื่องจากระบบทั้งหมดของร่างกาย ก็เหมือนกับกันวางทับกองสูงอย่างไม่หยุดหย่อน อยู่ในขอบเขตที่พังทลายลงแล้ว และสามารถล้มลงได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกชายของสมิธอายุเพียงสิบสองปี ร่างกายของเขาถูกดึงเข้าสู่กระบวนการต่อสู้มะเร็งมานานหลายปี
นอกจากนี้เนื้องอกในสมองของเขากำลังโตขึ้น และหลังจากที่การมองเห็นและการได้ยินได้รับผลกระทบ อารมณ์ของเขาก็รุนแรงเป็นอย่างมาก หมอยังฉีดยาระงับประสาทให้เขาด้วย ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ ก็ทำให้เขาเสื่อมลงไปอย่างรวดเร็ว
สมิธผ่านหน้าต่าง มองดูลูกชายบนเตียงผู้ป่วย คนทั้งคนก็หมดหวังอย่างยิ่ง
เขารู้ว่า ตัวเองพยายามมาหลายปี ในที่สุดยังล้มเหลว
ในเวลานี้ หมอคนหนึ่งเดินไปตรงหน้าของเขา พูดด้วยความเคารพ แล้วก็แฝงด้วยความเห็นใจเล็กน้อยว่า: “คุณสมิธ อาการของจิมมี่แย่มาก ผมกลัวว่าเขาจะอยู่ไม่ถึงในคืนนี้ คุณว่าพวกเราต้องเตรียมมาตรการปฏิบัติช่วยชีวิตมั้ย?”
เนื่องจากว่าสมิธเป็นผู้บริหารชั้นสูงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยิ่งไปกว่านั้นกุมอำนาจใหญ่การตรวจสอบยา ดังนั้นเขาอยู่ในการดูแลสุขภาพในสหรัฐอเมริกา มีเส้นสายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เขาถึงได้สามารถใช้เทคโนโลยีต่อต้านมะเร็งที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ใช้อยู่บนร่างกายลูกชายของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ก็เป็นเพราะเหตุนี้เอง หมอในโรงพยาบาลปฏิบัติต่อลูกชายของเขา ก็สำคัญเป็นอย่างมาก
หมอที่นี่มีประสบการณ์การช่วยชีวิตมากมาย ซึ่งเกือบจะเป็นตัวแทนของการแพทย์การรักษาโรคมะเร็งในระดับชั้นสูงสุด และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในโลก
สถาบันการแพทย์ทั่วโลกให้การประเมินศูนย์การแพทย์เชิงวิชาการสูงมาก สรุปข่าวลือต่างๆ สามารถสรุปได้ประโยคเดียว:มัจจุราชจะเอาชีวิตคนยามสาม ผู้ใดสามารถฉุดยื้อถึงยามห้า (คนเราเมื่อถึงที่ตาย ก็ต้องตาย)
ดังนั้น หมอของศูนย์การแพทย์เชิงวิชาการก็จึงมั่นใจไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยชีวิต ให้ลูกชายของสมิธมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วัน
แต่ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความยินยอมของสมิธ
เนื่องจากว่าในความคิดของหมอ เด็กคนนี้ได้ประสบกับความเจ็บปวดมากเกินไปแล้ว ในเวลานี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาได้รับความทุกข์ทรมานราวกับตกนรกอีกรอบก่อนจะจากไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...