ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3631

ประธานเพ๋ยขมวดคิ้ว ถามอย่างประหลาดว่า “ทุกคนมีความประทับใจที่ดีต่อด็อกเตอร์เฮ่อ ทำไมนายถึงอคติกับเขาขนาดนั้น ทั้งสองคนเป็นคนที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง ห่านฟ้าตัวผู้คู่ควรกับห่านฟ้าตัวเมีย อย่างกับกิ่งทองใบหยก เหมาะสมกันเป็นอย่างมาก!”

เมื่อเซียวฉางควนได้ยินว่าห่านฟ้าตัวผู้คู่ควรกับห่านฟ้าตัวเมีย โมโหในใจเป็นอย่างมาก อดด่าในใจไม่ได้ “เหล่าเพ๋ย คุณหมายความว่าอะไร ห่านฟ้าตัวผู้คู่ควรกับห่านฟ้าตัวเมียอะไรกัน คิดแบบนี้เหมือนฉันเป็นคางคกใช่ไหม!”

ประธานเพ๋ยดูออกว่าเซียวฉางควนโกรธ จึงพูดอย่างตกใจว่า “ฉางควน นายไม่ได้คิดอะไรกับด็อกเตอร์หานใช่ไหม!”

ประธานเพ๋ยไม่รู้เรื่องราวเมื่อก่อนระหว่างเซียวฉางควนกับหานเหม่ยฉิง รู้แค่ว่าทั้งสองคนรู้จักกันอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่ากันด้วย

อีกทั้งเซียวฉางควนมีครอบครัวแล้ว เรื่องนี้ประธานเพ๋ยรู้ดี ดังนั้นจึงไม่ได้คิดในแง่นี้

แต่ตอนนี้เหมือนเซียวฉางควน โกรธมากที่หานเหม่ยฉิงใกล้ชิดกับเฮ่อหยวนเจียง เขาเหมือนได้กลิ่นอะไรบางอย่าง

เซียวฉางควนเป็นคนไม่ดีตามแบบแผนเป๊ะ

โดนคนจับได้แบบนี้ เขากล้ายอมรับที่ไหนกัน!

ดังนั้นจึงรีบโบกมือพัลวัน แล้วพูดว่า “ผมเปล่านะประธานเพ๋ย ผมแค่คิดเฉยๆ เฮ่อหยวนเจียงไม่คู่ควรกับเหม่ยฉิง”

ประธานเพ๋ยพยักหน้า พูดอย่างจริงใจว่า “ฉางควน นายไม่ได้คิดแบบนั้นก็ดีมาก! นายต้องรู้ไว้ว่า สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของเรา ครึ่งหนึ่งเป็นของทางการ เราเป็นหน้าเป็นตาของด้านวัฒนธรรม และนายมีภรรยาแล้ว ถ้าทำเรื่องจีบผู้หญิงเล่นๆ หรือมีข่าวไม่ดีว่าจับปลาสองมือ จะกลายเป็นนิสัยไม่ดีในการใช้ชีวิต ฉันก็ช่วยนายไม่ได้!”

เมื่อเซียวฉางควนได้ยิน หัวใจเหน็บหนาวไปครึ่งซีก ในหัวมีหน้าของหม่าหลันลอยขึ้นมา

เขาพอจินตนาการได้ว่าถ้าหม่าหลันรู้ว่าหานเหม่ยฉิงกลับมาแล้ว แถมยังอยู่ใกล้ตัวเองมากด้วย เธอจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดไหน

เมื่อถึงตอนนั้น คงเกิดเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!

แต่เขาไม่มีโอกาสหย่ากับหม่าหลัน หม่าหลันพูดอย่างชัดเจนแล้วว่า จะไม่หย่ากับตัวเอง ดังนั้นถึงเขาจะฟ้องหย่าฝ่ายเดียว ก็เป็นไปไม่ได้

ตามข้อบังคับในปัจจุบัน เมื่อมีข้อสันนิษฐานว่าทั้งสองฝ่ายมิได้มีความผิด การฟ้องหย่า อันดับแรกต้องแยกกันอยู่สองปีเต็ม ไม่งั้นถึงฟ้องหย่า ศาลก็จะตัดสินว่าไม่อนุญาตให้หย่า

อีกทั้งถ้าอยากแยกกันอยู่กับหม่าหลันจริงๆ สองปีนี้หม่าหลัน ไม่ทรมานตัวเองจนตายเหรอ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เซียงฉางควนเครียดจนทรมานไปทั้งตัว

เขาอยู่กับหม่าหลันมาหลายปี โดนหม่าหลันกดขี่ข่มเหงต่างๆ นานา ทำให้มีอาการหวาดกลัวหม่าหลันอย่างรุนแรง

ถึงเขาเป็นพวกมีอำนาจ ส่วนหม่าหลันเป็นแค่ผู้หญิงปากร้าย แต่บางครั้ง มีเงาดำในใจ หรือบางทีผู้ชายที่เป็นนักจีบสาว โดนพูดรุนแรงใส่ด้วยคำพูดเป็นเวลานาน พวกมีอำนาจก็อาจโดนสั่นคลอน จนทำให้อำนาจอ่อนแอลง

ในชีวิตจริง ถึงความรุนแรงในครอบครัวจำนวนมาก ล้วนเป็นฝ่ายชายใช้ความรุนแรงกับฝ่ายหญิง แต่ก็มีความรุนแรงในครอบครัวจำนวนน้อย ที่ฝ่ายหญิงใช้ความรุนแรงกับฝ่ายชาย

และการที่ฝ่ายชายใช้ความรุนแรงกับฝ่ายหญิง ส่วนใหญ่มาจากเหตุที่ฝ่ายชายแข็งแกร่งกว่าฝ่ายหญิงโดยธรรมชาติ อาศัยความได้เปรียบทางด้านร่างกาย

ส่วนการที่ฝ่ายหญิงทำร้ายฝ่ายชาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นการที่ฝ่ายหญิงใช้วิธีของตัวเอง กดขี่จิตใจฝ่ายชายเป็นเวลานาน จนทำให้จิตใจของอีกฝ่าย ชินกับการยอมรับความลำบากอย่างไม่ขัดขืน ชินกับการให้อีกฝ่ายกดขี่ไม่หยุด เซียวฉางควนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน

เขารู้ว่าหม่าหลันเป็นหินที่ขวางตรงหน้าเขากับหานเหม่ยฉิง แต่ก็ไม่กล้าเตะเธออออกไป

ประธานเพ๋ยเห็นเขาเหม่อลอย จึงอดถามไม่ได้ว่า “ฉางควน นายคิดอะไรอยู่”

เซียวฉางควนหลุดออกจากภวังค์ รีบพูดว่า “เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

ประธานเพ๋ยไม่ได้คิดอะไรมาก พูดกำชับว่า “รีบไปกันเถอะ ชาวจีนโพ้นทะเลท่านนั้นรออยู่นะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน