เย่เฉินได้นามบัตรมา มองผ่านๆ แวบหนึ่ง พบว่าบนนามบัตรมีเพียงชื่อกับตัวเลขยาวๆ
ชื่อว่าจานเฟยเอ๋อร์ เบอร์โทรศัพท์ขึ้นต้นด้วย 159 เป็นหมายเลขภายในประเทศ
อีกทั้งนามบัตรนี้ยังมีกลิ่นหมึกพิมพ์โชยออกมาบางๆ เหมือนเพิ่งพิมพ์ออกมา
แต่เย่เฉินไม่ได้คิดอะไรมาก หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปนามบัตร และส่งคืนเซียวฉางควน
เขากะว่าจะติดต่อจานเฟยเอ๋อร์พรุ่งนี้ ไปดูฮวงจุ้ยให้เธอสักรอบ จัดการเรื่องนี้ให้ผ่านไป
วันต่อมา เย่เฉินทานข้าวเช้า เซียวฉางควนเตือนเย่เฉินว่า “เย่เฉิน นายอย่าลืมโทรหาคุณจานนะ”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “อีกเดี๋ยวผมไปส่งชูหรันที่บริษัท แล้วจะติดต่อคุณจานครับ”
เซียวฉางควนรีบพูดว่า “นายไม่ต้องไปส่งชูหรันแล้ว เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งชูหรันที่บริษัทเอง ฉันต้องไปสมาคมเร็วหน่อยพอดี ให้ชูหรันทิ้งรถให้นาย เกิดคุณจานรีบขึ้นมา นายจะได้ขับรถไปได้เลย”
เซียวชูหรันพยักหน้าแล้วพูดว่า “ที่รัก คุณจานลงทุนเงินให้สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของพวกพ่อเยอะมาก ถือว่าเป็นผู้สูงส่งของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ครั้งนี้รบกวนนายใส่ใจสักหน่อยนะ”
พูดพลาง เธอพูดอีก “นายดูว่าถ้างานนี้ไม่หนักมาก ก็ไม่ต้องเก็บเงินเขา”
เมื่อหม่าหลันได้ยิน เธอโพล่งออกมาทันที “ชูหรัน พูดอะไรน่ะ ขนาดพี่น้องแท้ๆ ยังต้องคิดเงินเลย นับประสาอะไรกับคนแปลกหน้าล่ะ”
พูดจบ เธอรีบพูดกับเย่เฉินว่า “ลูกเขย นายไม่ต้องไปฟังชูหรัน เงินที่ควรเก็บต้องเก็บมา เราไม่ทำเรื่องโง่ๆ ที่ไม่ต้องการเงิน เพราะหน้าตาหรอกนะ”
เย่เฉินมองเซียวชูหรัน ยิ้มแล้วพูดว่า “ที่รักไม่ต้องกังวล ผมรู้ดีอยู่แก่ใจ”
หม่าหลันรีบพูดว่า “ลูกเขย นายอย่าโง่นะ! เราจะลำบากกับใครก็ได้ แต่ห้ามลำบากกับเงินนะ! อีกอย่างนี่ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ ไม่ได้ทำอะไรก็เป็นล้านแล้วนะ!”
เย่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “โอเคแม่ ผมรู้แล้ว วางใจเถอะ”
เซียวชูหรันพยักหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเอามันร้อยเชือก ห้อยไว้ที่มือถือดีกว่า! เป็นของตกแต่งได้ด้วย!”
“ได้” เย่เฉินยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้ารู้แต่แรก ผมจะร้อยเชือกให้พวกคุณแล้ว”
หม่าหลันที่อยู่ด้านหลัง พูดอย่างไม่พอใจว่า “ลูกเขย ทำไมไม่ให้ยันต์ขลังแม่สักอันล่ะ!”
เย่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ นี่คุ้มครองให้ไปไหนมาไหนปลอดภัย ช่วงนี้คุณไม่ได้ออกไปไหน ติดตัวไว้ก็เป็นภาระเปล่าๆ ผมว่าเดี๋ยวเอาทองให้แม่สองแท่งดีกว่า ทำเป็นดัมเบลออกกำลังกายได้ด้วย”
หม่าหลันไม่ได้สนใจเรื่องยันต์ขลังอะไรอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าเซียวฉางควนกับเซียวชูหรันสองพ่อลูกได้ แต่ตัวเองไม่ได้ ก็เลยรู้สึกไม่เท่าเทียม และกลัวว่าเย่เฉินจะปฏิบัติกับตัวเองแตกต่างออกไป จึงตำหนิออกมา
เมื่อได้ยินว่าเย่เฉินจะมอบทองแท่งให้ตัวเอง ความไม่เท่าเทียมในใจเธอหายวับไปทันที
อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่า ยันต์ขลังอะไรนั่น ต้องเป็นสินค้าที่ตลาดขายส่งแน่นอน แค่ไม่กี่สิบหยวนเท่านั้น จะเทียบกับมูลค่าของทองสองแท่งได้อย่างไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...