ในเวลาเดียวกัน โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงในเมืองจินหลิง
สมิธที่ผอมลงหลายสิบวันในเวลาไม่กี่วัน เดินเข้าไปที่ประตูโรงแรมอย่างหดหู่ใจ
หลายวันนี้ไม่สามารถพบเจอกับเว่ยเลี่ยง ทำให้เขาทั้งคนก็ต้องทนทุกข์ทรมาน
ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนที่ตามมาทีหลังของลูกชายก็ยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง ไม่สามารถรับยาได้อีก ลูกชายก็จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ในการหยุดยา
สมิธก็ย่อมไม่ต้องการให้ลูกชายของเขาหยุดกินยาเด็ดขาด ดังนั้นจึงโทรหาเว่ยเลี่ยงอย่างต่อเนื่องทั้งวัน ถึงกับส่งอีเมลหลายฉบับไปยังอีเมลอย่างเป็นทางการของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนบนอินเทอร์เน็ต ขอร้องพบหน้าเว่ยเลี่ยงด้วยน้ำเสียงถ่อมตน แต่ข้อความทั้งหมดก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ไม่มีใครสนใจเขาด้วยซ้ำ
ผู้รับผิดชอบแผนกข่าวกรองก็ตกอยู่ในสภาพอึดอัดเหมือนกัน
เขาไม่เพียงแต่ก็ล้มเหลวไม่สามารถหาข่าวใดของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่หายตัวไป แต่กลับยังมีเจ้าหน้าที่ข่าวกรอกมากมาย ก็ทยอยหายตัวไปภายใต้สายตาของเขา
ภายใต้ความหมดหนทางก็ทำได้เพียงระงับกิจกรรมสายลับทั้งหมดชั่วคราวเท่านั้น
เดิมทีวันนี้สมิธต้องการลองเสี่ยงไปที่บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนดูอีก ในขณะเดียวกันก็ให้เว่ยเลี่ยงได้เห็นการลดเกียรติแสดงความจริงจังของตัวเอง
แต่คาดไม่ถึงว่า ผู้ช่วยของเฟ่ยเข่อซินก็โทรหาเขาอย่างกะทันหัน บอกว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟ่ยมีเรื่องต้องการพูดคุยต่อหน้ากับเขา
สมิธไม่กล้าทำให้เฟ่ยเข่อซินขุ่นเคืองใจ ดังนั้นทำได้เพียงหลังจากที่วางสาย ก็รีบมาที่นัดหมายในทันที
เขามาถึงที่ประตูห้องเพรสซิเดนท์สูทที่เฟ่ยเข่อซินอยู่ ลั่วเจียเฉิงบอดี้การ์ดข้างกายของเฟ่ยเข่อซิน ในเวลานี้ยืนนิ่งอยู่นอกประตู
สมิธเดินไปข้างหน้า ยิ้มออกมา และพูดว่า: “สวัสดีครับ ผมมาพบคุณหนูเฟ่ย”
ลั่วเจียเฉิงเพียงแค่จ้องมองเขาแวบหนึ่ง ก็พยักหน้าพูดว่า: “คุณหนูรอคุณอยู่ข้างใน เชิญเข้าไปเถอะ”
จากนั้น เขาก็หันหลังไปเปิดประตู
สมิธถามด้วยความประหลาดใจว่า: “ไม่ต้องค้นตัวหรือว่าตรวจความปลอดภัยอะไรเหรอ?”
“ไม่ต้อง”ลั่วเจียเฉิงพูดอย่างราบเรียบ: “ผมรู้ว่าบนตัวคุณไม่มีอาวุธใดอยู่”
สมิธเร่งรีบลุกขึ้นมา และพูดด้วยความเคารพว่า: “สวัสดีครับคุณหนูเฟ่ย!”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า และพูดอย่างสบายๆว่า: “เชิญนั่งก่อน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้”
สมิธถึงได้นั่งลงไปใหม่
เฟ่ยเข่อซินนั่งอยู่ตรงหน้าของสมิธ และถามอย่างสนใจว่า: “ใช่แล้วคุณสมิธ เรื่องของคุณจัดการได้เป็นยังไงบ้าง?”
สมิธพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า: “ไม่มีความคืบหน้าอะไร……บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนของเว่ยเลี่ยงไม่ยอมพบหน้าผม”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า และถามเขา: “บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนคนนั้น ฤทธิ์ของยาวิเศษมากจริงเหรอ?”
“วิเศษ!”สมิธเอ่ยปากพูดโดยไม่ต้องคิดว่า: “ยาแบบนี้ต่อต้านมะเร็ง ก็เหมือนกับเทอะลูมิเนียมหล่อหลอมลงในรังมด อะลูมิเนียมไปที่ไหนมดก็ไม่อยู่ที่นั่น”
เฟ่ยเข่อซินถามเขาว่า: “สามารถรักษามะเร็งให้หายขาดได้เหรอ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...