เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณจาน เมื่อวานก็บอกแล้วว่า การดูฮวงจุ้ยเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงิน แต่ทำไมคุณยังมอบรถคัลลิแนนให้พ่อตาของผมคันหนึ่ง? ทำให้ผมก็ค่อนข้างละอายใจจริงๆ”
เย่เฉินพูดแบบนี้ ก็เพียงแค่ปากบอกว่าเกรงใจ อันที่จริงในใจของเขาไม่ได้มีความละอายใจแม้แต่น้อย
ในเวลานี้เฟ่ยเข่อซินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณเย่คุณเกรงใจเกินไปแล้ว คุณเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยผู้มีชื่อเสียงในเมืองจินหลิง ฉันเชิญคุณมาดูฮวงจุ้ย มีเหตุผลที่จะไม่จ่ายเงินที่ไหนกัน ถ้าเกิดแสดงน้ำใจที่ต่อกันกับฉันเป็นที่แรก จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคตของคุณ งั้นฉันก็ละอายใจมากยิ่งกว่า”
จากนั้น เฟ่ยเข่อซินก็พูดอีกว่า: “คุณก็บอกว่า นี่ก็เป็นการปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนที่คนอื่นปฏิบัติต่อตนเอง มีมาก็ต้องมีไปถึงจะมีความสนิทสนม ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับปรมาจารย์อย่างคุณคุณเย่มาก!”
เย่เฉินหัวเราะ และพูดว่า: “คุณพูดถูก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ไม่เกรงใจคุณจานแล้ว”
เมื่อพูดอย่างนั้น เย่เฉินก็เปลี่ยนเรื่อง และพูดอีกครั้ง: “แต่ว่า ยังหวังว่าคุณจานจะให้โอกาสพบหน้า ให้ผมได้เลี้ยงข้าวคุณมื้อหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณจานสะดวกหรือเปล่า?”
เฟ่ยเข่อซินได้ยินตรงนี้ ในใจก็ย่อมดีใจเป็นอย่างมาก แทบจะพูดโดยไม่ลังเลว่า: “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณเย่เชิญฉันไปทานข้าว ฉันก็สะดวกอยู่ตลอดเวลา”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “โอเค งั้นก็คืนนี้นะ หลังจากที่ผมจองสถานที่เรียบร้อยแล้วจะส่งข้อความให้คุณ”
เฟ่ยเข่อซินตอบตกลงอย่างมีความสุข และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “โอเค! งั้นฉันก็จะรอการแจ้งเตือนของคุณเย่”
เย่เฉินพูดว่า: “งั้นพวกเราเจอกันคืนนี้!”
“ได้ เจอกันคืนนี้”
หลังจากวางสาย เย่เฉินโทรหาหงห้าในทันที และเอ่ยปากถามว่า: “หงห้า สามารถที่จะหาบ้านไร่แถวเมืองจินหลิงให้ฉันได้หรือเปล่า?”
หงห้าถามด้วยความประหลาดใจว่า: “คุณหาบ้านไร่ทำไม?”
“ได้ครับ!”หงห้ารีบพูดว่า: “งั้นผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
เย่เฉินก็พูดอีกว่า: “ใช่แล้วหงห้า เตรียมห้องส่วนตัวในโรงเลี้ยงสุนัข แล้วเตรียมรถอเนกประสงค์คันหนึ่งรออยู่บริเวณใกล้บ้านไร่ ตอนกลางคืนก็ไปรับคนคนหนึ่งให้ฉัน”
“ได้ครับอาจารย์เย่!”
เมื่อเย่เฉินวางสายมาถึงห้องนั่งเล่นชั้นล่าง หม่าหลันทำอาหารเช้าเสร็จและยกไปที่โต๊ะแล้ว เซียวชูหรันกำลังช่วยเตรียมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นเย่เฉินลงมา ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “สามีทานข้าว รีบนั่งลงก่อนนะ”
“ได้!”เย่เฉินตอบด้วยรอยยิ้ม กำลังนั่งลง ก็เห็นเซียวฉางควนใส่ชุดสูทเดินลงมาข้างล่างจากชั้นบน
เซียวชูหรันถามด้วยความประหลาดใจ: “พ่อค่ะ ทำไมวันนี้แต่งตัวเป็นทางการขนาดนี้?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...