Master class ที่เคลลี่ เวสท์กล่าวถึงนั้น เป็นชั้นเรียนฝึกอบรมระดับไฮเอนด์ที่จัดนำโดยโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ ซึ่งเป็นโรงเรียนการออกแบบชั้นนำของโลก นอกจากนี้ยังเป็นชั้นเรียนฝึกทักษะระดับแนวหน้า ในด้านการออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมดอีกด้วย ถูกยกย่องให้เป็นแหล่งกำเนิดของนักออกแบบชั้นนำในโลกอีกด้วย
เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยหูพ่านที่นำโดยเจ้าของอาลีบาบาร์และคนอื่นๆ ในเวลานั้น ผู้ที่สามารถผ่านเข้าเรียนได้นั้นต่างเป็นผู้ประกอบการที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ หรือเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มมากที่สุด
ในสถานที่ประเภทนี้นอกจากจะสามารถเข้าถึงความรู้ด้านฝีมือ และวิชาการระดับแนวหน้าในวงการแล้ว ยังสามารถไปถึงจุดสูงสุดของพีระมิดในวงการนี้ได้ ในขั้นตอนเดียว
ทันใดที่สามารถเข้าถึงได้ ก็เท่ากับการเชื่อมต่อทรัพยากรที่ทันสมัยที่สุดในวงการนี้
และ Master class ที่โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์จัดขึ้นนั้น เข้ายากกว่ามหาวิทยาลัยหูพ่านมาก
ก่อนที่มหาวิทยาลัยหูพ่านจะปิด ได้มีการคัดเลือกผู้ประกอบการในประเทศประมาณห้าสิบคนในทุกปี
แต่อย่างไรก็ตาม Master class ของโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ จะคัดกรองคนเพียงห้าสิบคนจากทั่วโลกในแต่ละปี
อีกอย่าง เนื่องจาก Master class ตั้งแต่วิทยาลัยเจ้าภาพไปจนถึงอาจารย์ผู้สอน โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่จะมาจากฝั่งตะวันตก ดังนั้นในทุกๆ ปีจะมีแนวโน้มด้านทรัพยากรอย่างร้ายแรงต่อประเทศตะวันตกในโควตาการลงทะเบียน
ในบรรดาโควตาห้าสิบคนนั้น มีโควตาอย่างน้อยสามสิบห้าคนจัดสรรให้กับนักออกแบบชาวตะวันตก และโควตาที่เหลือไว้สำหรับเอเชียนั้นมีไม่ถึงสิบคนเลยทีเดียว
ดังนั้น เมื่อดูจากทั่วทั้งประเทศหัวเซี่ยแล้ว จึงมีนักออกแบบไม่เกินสามคนที่จะสามารถไปเข้าร่วมใน Master class นี้ได้ในแต่ละปี
เซียวชูหรันได้ใฝ่ฝันกับ Master class นี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะได้มีโอกาสไปเข้าร่วม
ดังนั้น เธอจึงพูดกับเคลลี่ เวสท์ทันทีว่า “ฉันจะโทรหาชูหรัน และขอให้เธอไปรับประทานอาหารกลางวันตอนเที่ยง เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็บอกเรื่องนี้กับเธอ เพื่อดูว่าเธอสนใจมากน้อยแค่ไหน”
เคลลี่ เวสท์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณเฟ่ยวางใจได้เลย ชูหรันจะต้องให้ความสนใจมากอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ที่เธอถามฉันเกี่ยวกับ Master class ในดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยแสง นี่คือหนึ่งในความฝันสูงสุดของนักออกแบบทุกคน อีกอย่าง และหลังจากหลายปีที่ผ่านมา ยังมีดีไซเนอร์น้อยมากที่สามารถเข้าร่วม Master class ได้ในช่วงอายุยี่สิบปี ถ้าชูหรันมาเข้าร่วม งั้นเธอก็จะเป็นนักเรียนคนแรกในเอเชียที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีในชั้นเรียน เพียงแค่ชื่อเสียงนี้ก็สามารถทำให้เธอโด่งดังอยู่ในวงการออกแบบในทั่วหัวเซี่ยแล้ว”
“โอเค!” เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า ด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยในการแสดงออกของเธอ และกล่าวว่า “เคลลี่ ถ้าคุณช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ฉันได้ดี ตระกูลเฟ่ยจะไม่มีวันลืมคุณอย่างแน่นอน ในหนึ่งปีข้างหน้า โรงแรมกว่าสามร้อยแห่งทั่วโลกของตระกูลเฟ่ย จะทำการปรับปรุงใหม่อย่างน้อยหนึ่งร้อยแห่ง และเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะมอบการออกแบบโรงแรมทั้งหมดให้กับสตูดิโอของคุณ!”
แม้ว่าเคลลี่ เวสท์จะเป็นนักออกแบบชั้นนำ และมีรายได้อย่างน้อยหลายสิบล้านดอลลาร์ต่อปี แต่หากพูดตามตรงแล้ว เธอยังอยู่ห่างไกลจากคำว่ามหาเศรษฐีตัวจริงอย่างมาก
หากเฟ่ยเข่อซินมอบงานออกแบบโรงแรมมากกว่าหนึ่งร้อยแห่งให้กับสตูดิโอของเธอ งั้นกำไรสุทธิของเธอก็จะอยู่ที่สี่สิบล้านถึงล้านล้านหยวนเป็นอย่างน้อย และเพียงแค่เปิดบิลนี้บิลเดียว ก็จะสามารถอยู่ได้นานถึงสามปีเลยทีเดียว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...